คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ถนนคนเดินสังขละบุรี
ถนนคนเดินสังขละบุรี ซอยเทศบาล 22 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 71240
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันเสาร์
: 18:00 น. - 21:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
อำเภอสังขละบุรีร่วมกับเทศบาลตำบลวังกะ พ่อค้า ประชาชนชาวอำเภอสังขละบุรี ร่วมกันจัดกิจกรรม"ถนนคนเดินสังขละบุรี" ขึ้นอีกครั้งในทุกเย็นวันเสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ณ บริเวณตลาดสด เทศบาลตำบลวังกะ เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยวด้านนันทนาการ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นแก่นักท่องเที่ยวในวันหยุด กระตุ้นภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจการท่องเที่ยวของอำเภอสังขละบุรี ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการสืบทอดวัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะ วิถีชีวิตท้องถิ่น ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน ประชาชนในชุมชนเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการใช้เวลาว่างไปกับการแสดงความสามารถด้านต่างๆ ตลอดจนเป็นการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ของชนเผ่าและกลุ่มชาติพันธุ์ รวมทั้งเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน และประชาชนในอำเภอสังขละบุรี

ถนนคนเดินสังขละบุรี จัดขึ้นในทุกเย็นวันเสาร์ ณ บริเวณถนนด้านข้างโรงแรมศรีแดง ใกล้ตลาดสดเทศบาลสังขละบุรี ตั้งแต่ 17.00 – 22.00 น. (หากสัปดาห์ใดตรงกับช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว อาจมีการพิจารณาปรับเพิ่มวันตามความเหมาะสม)
ที่มาข้อมูล
กรมการค้าภายใน
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: มีค่าใช้จ่าย
  - ต่างชาติ ผู้ใหญ่
:
  - ต่างชาติ เด็ก
:
  - ไทย ผู้ใหญ่
:
  - ไทย เด็ก
:
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
-ชม ชิม ช็อป สินค้าชุมชนตลาดน้ำท่าคา (ตลาดน้ำมีทุกวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และทุกวันขึ้นและแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ) -ลงเรือพายชมธรรมชาติริมฝั่งคลอง ไปตามเส้นทางเสด็จประพาสต้น ร.5 ณ บ้านกำนันจัน เป็นบ้านเรือนไทยเก่าแก่ (จองก่อนเข้าชมบ้านกำนันจัน) -เยี่ยมชมกิจกรรมชุมชน ร่วมทำกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ต่างๆของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ตลาดน้ำท่าคาจากเรื่องราวของมะพร้าว ชมภูมิปัญญาการทำน้ำตาลมะพร้าว ได้แก่ - การขึ้นเก็บน้ำตาลมะพร้าวจากต้น - การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวแบบโบราณ - เติมความหวาน เรียนรู้การทำขนมโบราณจากน้ำตาลมะพร้าวท่าคา - การจักสานก้านมะพร้าว ภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนท่าคา - การจักสานทางมะพร้าวสด นำมาสานเป็นหมวก ตะกร้า ฯลฯ - เรือดุ๊กดิ๊กจากกาบมะพร้าว
สมุทรสงคราม
สวนสุภัทราแลนด์ เป็นแหล่งรวบรวมไม้ผลเมืองร้อนไว้มากถึง25 ชนิด พื้นที่ 800 ไร่ เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ องุ่น ขนุน ลำไย มะเฟือง มะพร้าว ลองกอง สละ แก้วมังกร ชมพู่ มีผลไม้หลายอย่างและยังมีผักไฮโดรโพนิกส์ และการเลี้ยงผึ้งแล้ว
ระยอง
แปลงเรียนรู้ไม้ดอกเมืองหนาว - กล้วยไม้ซิมบิเดียมตัดดอก - แปลงทิวลิป แปลงเรียนรู้ไม้หอม - โรสแมรี่ - เจอราเนียม แปลงเรียนรู้การปลูกพืชเชิงอนุรักษ์บนพื้นที่สูง - อะโวคาโด - กาแฟอาราบิก้า - แมคคาเดเมีย รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรม - มีจุดถ่ายรูป ลานจอดรถ ห้องน้ำ ให้บริการ - เดินชมแปลงเรียนรู้ (ไม้ดอก , ไม้หอม , พืชอนุรักษ์) พร้อมเรียนรู้การเพาะขยายพันธุ์ และการปลูก/ดูแลรักษา - มีจุดจำหน่ายสินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์, พืชผัก, ไม้ผล, พืชไร่ - มีบริการเครื่องดื่ม กาแฟ ชาเจียวกูหลาน - มีบริการบ้านพัก / จุดกางเต้นท์ การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว - ชม ชิม ช้อป สินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์กระเป๋า ของที่ระลึก สินค้าเกษตร ไม้ผลเมืองหนาว พืชไร่ พืชผักตามฤดูกาล - ถ่ายรูป เช็คอิน แปลงไม้ดอก/ทิวลิป - เดินชมแปลงเรียนรู้ภายในศูนย์ฯ - ดื่มด่ำบรรยากาศทะเลหมอกในฤดูหนาวของจังหวัดเชียงราย โปรแกรมการท่องเที่ยว: โปรแกรม 2 วัน 1 คืน วันที่หนึง 09.30 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เดินทางสู่ไร่เชิญตะวัน 10.00 แวะรับทานอาหารเช้า ณ ร้าน “ภูเทียนรีสอร์ท” / “จุ๋ยกุ้งเผา” 11.00 ไร่เชิญตะวัน ศึกษาธรรมะกับแนวคิดมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (สถาบันการศึกษาทางเลือก เพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์) เกษตรธรรมชาติแบบครบวงจร 12.00 ออกเดินทางจากไร่เชิญตะวัน แวะรับประทานอาหาร ณ ร้าน “ลานนาตะวันวา” 13.00 ชมการสาธิตการคั่วชาอัสสัมและการทำเมี่ยง แบบดั่งเดิมโดยชุมชนเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย 14.00 ออกเดินทางจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย สู่ไร่รื่นรมย์ ต.งิ้ว อ.เทิง 14.30 ชมความงดงามของฟาร์มออแกนิคโดยคนรุ่นใหม่ รับประทานอาหารว่าง จากไร่จากแปลงเกษตรอินทรีย์โดยตรงเพื่อสุขภาพเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งหลักการและการลงมือทำ 15.00 ออกเดินทางจากไร่รื่นรมย์ สู่ศูนย์ฯ ดอยผาหม่น 17.00 รับประทานอาหารค่ำแบบชนเผ่า ปิ้งย่าง กิจกรรมรอบกองไฟ พร้อมชมการแสดงจากกลุ่มยุวเกษตรกรชาติพันธุ์ ศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าจากชุมชน ท่ามกลางธรรมชาติและอาทิตย์อัสดง วันที่สอง 04.30 ตื่นนอน ทำภารกิจส่วนตัว 05.00 เดินทางสู่ยอดภูชี้ฟ้า ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามตามธรรมชาติ ขุนเขาและทะเลหมอก 06.00 เดินทางกลับสู่ ศูนย์ฯ ดอยผาหม่น 07.00 รับประทานอาหารเช้า 08.00 รื่นเริงกับกิจกรรมทางการเกษตรของศูนย์ฯ ดอยผาหม่น ชมแปลงไม้หอม ดอกทิวลิป ชมความงดงามของแปลง ซิมบีเดียม และแปลงเรียนรู้การปลูกกาแฟ อโวคาโด และแมคคาเดเมีย ชิมกาแฟสด คุณภาพสูงจากเกษตรกรผู้ผลิต 12.00 พักรับทานอาหารกลางวัน 13.00 เดินทางสู่กลุ่มผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์บ้านบ้านพิทักษ์ไทย 13.30 เดินชมแปลงกาแฟอินทรีย์กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์บ้านพิทักษ์ไทย ร่วมศึกษากรรมวิธีการปลูกกาแฟอินทรีย์คุณภาพดี ซื้อสินค้าที่ระลึกจากชุมชนชาติพันธุ์ 14.30 เดินทางสู่หอนาฬิกาจังหวัดเชียงราย แลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย 16.00 ซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นเมือง ของฝาก ของที่ระลึก เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ: 1) ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง ระยะทาง 11 ก.ม 2) ผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น ระยะทาง 36 ก.ม 3) ดอยชมดาว ต.ตับเต่า อ.เทิง ระยะทาง 6 ก.ม
เชียงราย
บ้านจำรุงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ สมาชิกเหมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกันทั้งหมด แต่เดิมมีลุงสำเริง ดีนาน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “โอท็อปโบราณ” ก่อนจะพัฒนาเป็นศูนย์โอท็อปชาวบ้าน นำสินค้าผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนมาขาย นอกจากนี้ ยังเปิดแหล่งท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ มีรถพาชมสวน ได้ทั้งการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ และความรู้จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบชาวบ้าน ทั้งเกษตรพื้นบ้านไร้สารเคมี เกษตรธรรมชาติกองทัพมด เป็นตัวอย่างนำกลับไปใช้ได้จริง โดยเริ่มลงมือทำตั้งแต่ปีพ.ศ.2529 กระทั่งมีผลงานเป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือของชาวบ้านที่เข้มแข็ง จากที่ประชุมกันในครัวเรือน กลายเป็นเครือข่ายองค์กรบ้านจำรุง ที่มีการประชุมร่วมกันทุกวันที่ 15 ของเดือน เป็นเวทีสาธารณะ หรือเวทีชาวบ้าน ที่มีทั้งเด็ก เยาวชน และคนแก่ เข้าร่วม ต่อมาปี พ.ศ.2549 จึงจัดตั้งเป็น “มหาวิทยาลัยบ้านนอก” เพื่อการเรียนรู้ของสังคม กระทั่งได้รับรางวัล “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็นเป็นสุข” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาศึกษาหาความรู้กันอย่างไม่ขาดสาย เป็นสิ่งที่ชาวบ้านภาคภูมิใจ
ระยอง
เป็นฟาร์มเกษตรแบบผสมผสาน มีการวางแผนและจัดระบบฟาร์มที่ดี การผลิตและใช้สารสกัดชีวภาพเพื่อป้องกันและกำจัดศัตรูพืช นอกจากนั้นยังมีการขยายพันธุ์ไม้ผลและเป็ดเทศอีกด้วย ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการศึกษาดูงาน
กำแพงเพชร
สวนจะติดกับคลองชลประทาน ซึ่งจะมีลมพัดเย็นตลอดเวลา ภายในสวนบรรยากาศร่มรื่น มีการจัดเส้นทางเดินชมสวน และมีซุ้มสำหรับให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน รับประทานผลไม้ในสวนนานาชนิด โดยเอกลักษณ์ที่สำคัญของสวนผู้ใหญ่สมควรคือ ต้นมังคุด 100 ปี จะมีขนาดลำต้นที่ใหญ่ สูง และมีลักษณะเป็นพุ่มสวยงาม ซึ่งลักษณะเด่นของมังคุด 100 ปี คือ จะมีเปลือกบาง หวานอร่อยกว่ามังคุดทั่วไป โดยลูกจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนักและผิวพรรณจะไม่นวลเนียนเท่าที่ควร แต่มีรสชาติอร่อย
ระยอง
อินทผลัมเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของอำเภอห้วยทับทัน มีทั้งหมด 10 สายพันธุ์ ซึ่งนำเข้าจากประเทศอียิปต์ อาทิ คาลูเต้ อัจวะห์ ซากูลใหญ่ ซากูลเล็ก บาฮี เจ้าชายซาอุ อัมเอสดาฮาน โคไนซี่ ชิชิ และนาเวนเดอร์ เป็นต้น เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงเกษตรการเพาะเนื้อเยื่อ SUKAN DATE PALM และเดินชิม ชมสวนอินทผลัมแต่ละสายพันธุ์ซึ่งเป็นผลผลิตของศูนย์เรียนรู้ฯ ตลอดจนสินค้าชุมชนอื่น ๆ ทั้งทุเรียน กล้วยหอมทอง ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม ฯลฯ
ศรีสะเกษ
ขายอินทผลัมผลสด,แห้ง ขายต้นพันธ์(เนื้อเยื่อ) รับปลูก,ระบบน้ำอัตโนมัติ รับทำสวนทั้งระบบ
อุบลราชธานี
บ้านไร่ไชยสุริย์ ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เป็นศูนย์เรียนรู้การสร้างอาชีพ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับประชาชนและสามรถที่นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมการเกษตรต่างๆเพื่อนำไปปรับใช้เป็นอาชีพของตนเองได้
มุกดาหาร
อิ่มหนำสำราญใจไปกับบุฟเฟต์ผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด พร้อมอาหารพื้นบ้านไว้คอยบริการ
ระยอง
สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงการเกษตร บริเวณภายในมีการตกแต่งและจัดสวนไว้อย่างสวยงาม เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการเข้าไปเที่ยวชมการเพาะปลูกพืชพรรณ ไม้ดอกเมืองหนาวต่างๆ มากมาย เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่จะมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากมายขึ้นไปเที่ยวดอยอ่างขางและมักจะแวะเข้าไปท่องเที่ยวยังศูนย์เกษตรฯ แห่งนี้ด้วย
เชียงใหม่
บ้านนอก Story จุดเริ่มต้น กว่าจะมาเป็นบ้านนอก story เริ่มจากสิ่งที่ชอบ และนำสิ่งที่ชอบนั้นมาสร้างรายได้ให้ได้ สิ่งที่ชอบของพวกเราคือ ความเป็นบ้านๆ ความเป็นชนบท และอยู่กับธรรมชาติ นี่คือจุดแข็งอย่างแรกที่เรามั่นใจ ว่าพวกเราจะอยู่กับสิ่งๆนี้ไปได้ตลอด แม้อาจจะไม่มีรายได้เกิดขึ้นเลยก็ตาม เลยเลือกที่จะกลับมาพิสูจน์ตัวเองที่บ้านเกิด ว่าพวกเราจะยังมีความเชื่อที่แรงกล้า พอที่จะฝ่าฟันอุปสรรค และความเป็นชนบทที่แท้จริงได้หรือไม่ ก่อนเปิดร้านบ้านนอก สตอรี พวกเราได้ ออกไปหาประสบการณ์ คือการไปออกบูธขายกาแฟ 8 เดือน เพื่อปรับสูตรและเมล็ดกาแฟที่ให้เป็นตัวเองมากที่สุด และเดินทางทั่วประเทศไทย อีก 2 เดือน เพื่อหาไอเดียใหม่ๆ รสชาติใหม่ๆ ความรู้เรื่องกาแฟ และประสบการณ์ มุมมองเกี่ยวกับการทำธุรกิจเล็กๆ พวกเราใช้เวลาเรียนรู้ กัน 1 ปีเต็ม กว่าจะมาเป็นร้านบ้านนอก สตอรี แน่นอนว่า เมื่อเรามาทำร้าน จุดที่เป็นจุดขายและเป็นเอกลักษณ์คือ ใช้ของที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ เช่นไม้ ต้นไม้ วัสดุที่หาได้ตามบ้านนอก ที่ผู้คนหรือชาวบ้านไม่เห็นคุณค่า นำกลับมาดัดแปลง ในไอเดียที่เรามี ลดวัสดุสิ้นเปลือง แถมยังได้ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติแบบสูงสุด อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ร้านของเราก็เลยจะมีวัสดุที่มาจากธรรมชาติ เป็นหลัก และร้านของเรา ยังเน้นไปที่การ ให้ลูกค้าได้อยู่แบบ OUT DOOR อยู่กับธรรมชาติ ฟังเสียงนก สัมผัสอากาศที่บริสุทธิ์ อย่างน้อย ก็เพื่อบำบัดความเครียด เพื่อให้สมองได้ปลอดโปร่ง เพราะฉะนั้น ร้านของเรา เป็นร้านที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้า เข้ามาผ่อนคลาย และได้รับเครื่องดื่มและอาหารที่อร่อย ในทุกๆเมนู ที่สำคัญคือได้ความสบายใจ ที่มาเยือน ณ ร้านของเรา เพราะเราให้ความสำคัญ กับการบริการ และ รสชาติของอาหารเป็นหลัก สุดท้ายนี้ การเปิดร้านเล็กๆข้างบ้าน เป็นเพราะทุนของเรามีจำกัด จึงต้องทำร้านเล็ก เพื่อไปสร้างร้านใหญ่ เพราะเรามีฝันที่ใหญ่กว่านี้มาก และหวังว่าทุกคนที่ชอบความเป็น บ้านนอก สตอรี ฉบับ โฮม ทาวน์ แบบชนบท จะสนับสนุนและให้กำลังใจพวกเรา ได้ทำฝันให้สำเร็จ ขอบคุณครับ
อุตรดิตถ์