คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
เปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ถือเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการ ฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างเป็นแห่งแรกในประเทศไทย เดิมทีเป็นนากุ้งที่ได้รับสัมปทาน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า – คลองคอย ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาที่ปราณบุรี กรมป่าไม้ได้สนองพระราชดำริด้วยการยกเลิกสัมปทานนากุ้ง แล้วรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ พัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมเร่งฟื้นฟูป่าชายเลนและกำหนด ให้เป็นพื้นที่เป้าหมายในการปลูกป่าและพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนในเวลาต่อมา
ประวัติความเป็นมา
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน สิรินาถราชินี เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างแห่งแรกของประเทศไทย หากย้อนหลังไปเมื่อ10 กว่าปีที่ผ่านมาบริเวณพื้นที่ของศูนย์ฯ แห่งนี้ ก็คือนากุ้งทั้งหมด ปราศจากสีเขียวแต่ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่สีเขียวไปทั่วทั้งบริเวณด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จฯ ปราณบุรี ปี พ.ศ.2539
ลักษณะเด่น
เส้นทางเดินมีสิ่งที่น่าสนใจคือ “ต้นโกงกางประวัติศาสตร์” หรือต้นโกงกางใบเล็กจำนวน 2 ต้น ที่ ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระเทพฯทรงปลูกที่ศูนย์แห่งนี้ ต้นโกงกางถือเป็นไม้เด่นประจำป่าชายเลน และด้านในศูนย์ได้รับ 10 สุดยอดประสบการณ์ “มหัศจรรย์ป่าสร้าง” ที่รวมความหลากหลายบรรยากาศแห่งความประทับใจไว้
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ฟาร์มเมล่อนคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจทุกการผลิต ด้านในประกอบด้วย ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก สวนเมล่อน ครบวงจรในที่เดียว
สระบุรี
ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดจันทบุรี (ศูนย์ผึ้งจันทบุรี) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ การเลี้ยงผึ้งพันธุ์ ผึ้งโพรง ผึ้งชันโรง จิ้งหรีด และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผึ้งและผึ้งชันโรง จุดเรียนรู้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง การเพาะเห็ดนางฟ้าและเห็ดในขอนไม้ั การปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษในภาชนะ การปักชำมะนาวแบบควบแน่น เที่ยวได้ทุกวันที่จันทบุรี การเลี้ยงผึ้ง Bee Keeping
จันทบุรี
หากใครกำลังมองหาที่พักผ่อนหย่อนใจจากการทำงานอย่างหนักหน่วงตลอดทั้งสัปดาห์ ขอเชิญชวนมาท่องเที่ยวชมสวนดอกไม้ ชื่นชมกับธรรมชาติ รับประทานอาหารอร่อย ดื่มกาแฟหอมๆ ถ่ายรูปเล่นมีรถรับส่งเข้าชมไร่
กำแพงเพชร
กลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตรอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบไปด้วยสวนเกษตรอินทรีย์ 6 สวนดังนี้ - สวนจันทร์ชื่น ตั้งอยู่ที่ 8 ม.8 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะมีการทำบ่อปลาร่วมกับเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน เช่น มะพร้าวน้ำหอม ,กล้วยหอมทอง,เตยหอม,และผลไม้อื่นๆอีกมากมาย - สวนสละอุบล(สละอินโด) ตั้งอยู่ที่ 162 ม.10 ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะเป็นการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน เช่น สละอินโด กล้วยสายพันธุ์ต่างๆ มะละกอหลากหลายสายพันธุ์ ไม้ประดับนกน้อยนำโชคและใบไม้สีทอง - บ้านกะสวน ตั้งอยู่ที่ 235 ม.10 ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะเป็นการทำเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน เช่น มัลเบอร์รี่ ,มะเดื่อฝรั่ง,หญ้าหวาน และพืชผัก ผลไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ จุดเด่นจะมีผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากผลผลิตภายในสวน - นิรมลฟาร์มม้า ตั้งอยู่ที่ 227 ม.1 ต.คำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะอยู่ที่เป็นฟาร์มม้า มีม้าหลากหลายสายพันธุ์มีรถม้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อดีตของอำเภอวารินชำราบ มีสนามสำหรับขี่ม้า และมีการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน - สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฎ ตั้งอยู่ที่ 86 ม. 8 ตำบลธาตุ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวนจะเป็นสวนผลไม้อินทรีย์ผสมผสาน เช่น ลิ้นจี่ ,แก้วมังกร ,ฟาร์มเห็ด ,กล้วย ,มังคุด ,ขนุน ,ทุเรียน โดยในสวนจะมีร้านกาแฟและอาหารที่นำผลผลิตจากภายในส่วนมาเป็นวัตถุดิบในการทำอาหาร - สวนรัชภูโต ตั้งอยู่ที่ 59 ม.10 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เอกลักษณ์ของสวน จะเป็นการทำสวนเกษตรอินทรีย์ผสมผสาน เช่น มะเม่า ,กล้วยหอมคาเวนดิช ,มะละกอ พืช ผักอินทรีย์ จุดเด่นจะเป็นสถานที่เรียนรู้ระบบธนาคารน้ำใต้ดิน โปรแกรมการท่องเที่ยว: โปรแกรมท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืน ราคา 990/คน (30 คน) รูปแบบกิจกรรม ของกลุ่มท่องเที่ยวเชิงเกษตรและแปรรูปผักผลไม้อินทรีย์ วันที่ 1 9:00-11:00 สวนรัชภูโต  ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยพวงมาลัยดอกไม้  เดินชมสวนเกษตรผสมผสาน  เรียนรู้ระบบธนาคารน้ำใต้ดิน  เบรก ด้วยผลิตภัณฑ์จากสวน  กิจกรรมเพาะปลูกพืชผัก นำพืชผักที่เพาะปลูกกลับได้ด้วย 11:30-13:30 สวนสละอุบลสละอินโด  รับประทานอาหารเที่ยง อาหารพื้นบ้าน (ข้าวป่า)  เดินชมสวน /ผลไม้ตามฤดูกาล  เรียนรู้การตอนมะละกอ  กิจกรรม เพาะสละอินโด รับต้นไม้ที่เพาะกลับได้ด้วย 14:00-16:00 บ้านกะสวน  เดินชมสวนเก็บผลไม้ทำกิจกรรม  เบรก ด้วยผลิตภัณฑ์จากสวน  เรียนรู้พืชสมุนไพรเพื่อสุขภาพ  กิจกรรมแปรรูป มัลเบอร์รี่,มะเดื่อฝรั่ง,หญ้าหวาน  แนะนำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มและรับของฝากจากสวน 16:30-18:00 นิรมลฟาร์มม้า  ขี่รถม้า จากบ้านกะสวน ไปยัง นิรมลฟาร์มม้า  ขี่ม้า/เดินชมสวนเกษตรผสมผสาน  เรียนรู้การขี่ม้าเบื้องต้น  กิจกรรมร่วมกับม้า การขี่ม้า,บังคับม้า,ถ่ายภาพกับม้า,อาบน้ำม้า ,โชว์ม้าแสนรู้ สถานที่พักค้าคืน นิรมลฟาร์มม้า หรือ สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ 19:00-22:00 นิรมลฟาร์มม้า (กางเต้นท์นอน สไตล์คาวบอย) หรือ สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ  รับประทานอาหารเย็น  รำบายศรี ,การแสดงชุมชน  กิจกรรมนันทนาการ วันที่ 2 7:00 – 8:30 นิรมลฟาร์มม้า หรือ สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ  ตักบาตร ,ฟังธรรม  รับประทานอาหารเช้า 9:00-11:00 สวนลิ้นจี่สุวรรณกูฏ  เดินชมสวนลิ้นจี่,แก้วมังกร/ผลไม้ตามฤดูกาล  เบรก ด้วยผลิตภัณฑ์จากสวน  เรียนรู้การเพาะเห็ดนางฟ้า  กิจกรรมฟาร์มเห็ด นำก้อนเห็ดกลับได้ด้วย 11:30-13:30 สวนจันทร์ชื่น  เดินชมสวน/ผลไม้ตามฤดูกาล/ให้อาหารปลา  เรียนรู้การทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง  กิจกรรมเพาะชำต้นไม้ นำต้นไม้ที่เพาะชำกลับได้ด้วย  รับประทานอาหารเที่ยง เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ: - วัดหนองป่าพง (หลวงปูชา) 12 กิโลเมตร - ฟาร์มฮัก ป.อุบล 15 กิโลเมตร - ทุ่งหนองหญ้าม้า 5 กิโลเมตร - สวนไม้ดอกไม้ประดับบ้านตาติด 15 กิโลเมตร - หาดคูเดื่อ 15 กิโลเมตร - ท่องเที่ยวชุมชนใกล้เคียง(จักรยาน) แปลงผัก,แปลงดอกไม้,ฟาร์มเลี้ยงหนูนา,วัดคำขวาง,บ้านสมุนไพร
อุบลราชธานี
บ้านน้อยในป่าใหญ่ ศูนย์เรียนรู้วิถีเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งก่อตั้งโดยเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงที่ต้องการจะถ่ายทอดการทำการเกษตรแบบพอเพียง ใช้บ้านและสวนเป็นแหล่งให้คนภายนอกได้มาเรียนรู้
ชุมพร
พระธาตุก่องข้าวน้อย ตั้งอยู่ในทุ่งนา ตำบลตาดทอง เป็นเจดีย์เก่าสมัยขอม สร้างในพุทธศตวรรษที่ 23-25 ตรงกับสมัยอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ในเขตวัดพระธาตุก่องข้าวน้อย ซึ่งแต่เดิมเป็นเพียงทุ่งนาในเขตตำบลตาดทอง พระธาตุก่องข้าวน้อยเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลกไปจากเจดีย์โดยทั่วไป คือมีลักษณะเป็นก่องข้าว องค์พระธาตุเป็นเจดีย์เหลี่ยมย่อมุมไม้สาม ฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 2 เมตร ก่อสูงขึ้นไปประมาณ 1 เมตร ช่วงกลางขององค์พระธาตุมีลวดลายทำเป็นซุ้มประตูทั้งสี่ด้าน ถัดจากช่วงนี้ไปเป็นส่วนยอดของเจดีย์ที่ค่อยๆ สอบเข้าหากัน ส่วนยอดรอบนอกของพระธาตุก่องข้าวน้อยมีกำแพงอิฐล้อมรอบขนาด 55 เมตร นอกจากนี้บริเวณด้านหลังพระธาตุมีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่งก่อด้วยอิฐ ชาวบ้านนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และในเดือนห้าจะมีผู้คนนิยมมาสรงน้ำพระและปิดทอง เชื่อกันว่าถ้าไม่ทำเช่นนี้ฝนจะแล้งในปีนั้น นอกจากนี้ที่บริเวณบ้านตาดทอง กรมศิลปากรได้ดำเนินการขุดค้นเรื่องราวของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ได้ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และภาชนะลายเขียนสีแบบบ้านเชียง
ยโสธร
แหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอินทรีย์ มีทั้งที่พัก กิจกรรม คอร์สเรียนรู้ทางด้านการเกษตรและอาหารเป็นยา
เชียงราย
ที่นี่ บ้านนาสวนสามขา อำเภอสันติสุข สัมผัสวิถีเนิบช้ากับยามเช้าอันแสนสงบ เที่ยวชมท้องทุ่งสีเขียวอ่อน ในหน้าฝน สูดดิน กลิ่นโคลน สุดสดชื่นระรื่นตา กับบรรยากาศชายทุ่งเดินเล่นทอดน่องพักผ่อนสบายๆ กินอยู่ง่ายๆ เก็บพืชผักสวนครัวในบ้าน นำมาปรุงอาหาร เป็นเมนูในท้องถิ่น แค่นี้ก็อิ่มอร่อยมีเวลาเหลือๆ ลงแปลงเพาะกล้า ทำนาโยน เรียนรู้การเกษตรวิถีใหม่ บางคนไม่ใช่เกษตรกรโดยตรง ไม่เคยดำนา มาท่องเที่ยว อยากเดินย่ำโคลนโยนข้าว สัมผัสสายลม และท้องทุ่งขนต้นกล้าที่เพาะไว้ไปแปลงนา เดินป่าๆ โยนๆ แบบซิวๆ ไม่ต้องก้มให้เมื่อย ยิ่งแดดร่ม ลมตกแบบนี้สบายๆ
น่าน
สวนอินทผลัมเมืองช้าง ม.18 บ.โคกสวาย คุ้มหินปูน ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์
สุรินทร์
พระธาตุกู่จาน ตั้งอยู่ภายในวัดบ้านกู่จานเป็นปูชนียสถานสำคัญ ประชาชนชาวเมืองยโสธรและจังหวัดใกล้เคียงต่างสักการะบูชา ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงบัวเหลี่ยมรูปทรงคล้ายพระธาตุพนมแต่มีขนาดเล็กกว่า ส่วนของฐานล่างรูปบัวคว่ำบัวหงายเตี้ยๆ รองรับฐานสูงรูปสี่เหลี่ยมเรียบต่อด้วยทรงบัวเหลี่ยม ประดับตกแต่งด้วยลวดลายประณีตสวยงามตามโบราณ และยอดพระธาตุทรงเหลี่ยมรองรับฉัตรซึ่งเป็นยอดบนสุด จากหลักฐานน่าจะสร้างขึ้นตามคตินิยมในการสร้างพระธาตุทั่วไป คือ เพื่อการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ แต่ละปีจะมีการจัดพิธีสรงน้ำเพื่อรักษาประเพณีที่ดีงามเอาไว้ ลักษณะทางสถาปัตยกรรม องค์พระธาตุกู่จาน กว้าง 5.10 เมตร สูง 15 เมตร ที่ตั้ง ตั้งอยู่ที่บ้านงิ้ว กลางลานวัดกู่จาน ตำบลกู่จาน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งดูลักษณะแล้วคล้ายคลึงกับองค์พระธาตุพนม ต่างกันเพียงขนาดซึ่งพระธาตุกู่จานมี ขนาดเล็กกว่า ความสำคัญต่อชุมชน : เป็นที่สักการะของชาวเมืองยโสธรและจังหวัดใกล้เคียง ทุกๆ ปี ชาวตำบลกู่จานจะนำน้ำอบ น้ำหอมไป ทำพิธีสรงน้ำพระธาตุในช่วงเช้าของวัน เพ็ญ เดือน 6 ตอนบ่ายจะไปทำพิธีสรงน้ำ "กู่" หลังจากนั้นจะพากันไปที่หนองสระพัง เพื่อนำน้ำที่หนองสระพังมาทำพิธี สรงน้ำพระธาตุและใบเสมา ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวนี้ ต้องกระทำเป็นประจำทุกปี มีความเชื่อว่าหากไม่ทำพิธีดังกล่าวแล้วจะทำให้ ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล ชาวบ้านกู่จานจึงได้ถือปฏิบัติพิธีนี้เป็นประจำ
ยโสธร
📍 พิกัดฟาร์ม : https://maps.app.goo.gl/i7ouTVpvLiGX39Je9 ☎️ โทรศัพท์ : 062-351-4593 ⏰ เปิดบริการทุกวัน : 07.00 - 18.00 น
กำแพงเพชร
จัดเป็นสถานีจุดเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เช่น ๑.๑. สถานีการให้บริการเชื้อพันธุ์กล้วยไม้ และห้องเพาะเมล็ดกล้วยไม้ ๑.๒. สถานีการปลูกเลี้ยงกล้วยไม้สายพันธุ์ต่างๆ และการเพิ่มมูลค่ากล้วยไม้ ๑.๓. สถานีการปลูกและขยายพันธุ์ไม้ประดับ ๑.๔. การผลิตเชื้อชีวินทรีย์ (ไตรโครเดอร์ม่า บิวเวอร์เรีย บีที) , การทำปุ๋ยหมักไม่กลับกองสูตรแม่โจ้ ๑.๕. สถานีการเลี้ยงไส้เดือน จิ้งหรีด และชันโรง ๑.๖. สถานีการปลูกผักไร้ดิน และผักลอยฟ้า ๑.๗. สถานีการเพาะเห็ดแบบต่างๆ ๑.๘. สถานีการเพาะต้นอ่อนพืช และการแปรรูปอาหารจากเห็ด ๑.๙. สถานีการขยายพันธุ์ไม้ผลแบบต่างๆ ๑.๑๐. สถานีเกษตรผสมผสานตามหลักปรัญญาเศรษฐกิจพอเพียง (สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)
สมุทรสาคร