คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ตลาดน้ำไทรน้อย
13 หมู่3 ตำบลขุนศรี อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี 11150
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
เปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 08:30 น. - 14:00 น.
• วันเสาร์
: 08:30 น. - 14:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
ตลาดน้ำไทรน้อย เริ่มเปิดดำเนินกิจกรรมที่บริเวณริมเขื่อนหน้าเทศบาลตำบลไทรน้อย โดยดำเนินกิจกรรมอยู่เป็นเวลา 3 ปีจึงได้ย้ายมาเปิดที่บริเวณริมคลองพระพิมลราชา วัดไทรใหญ่ เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2545 โดยวัดไทรใหญ่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2410มีอาณาเขต จำนวน 20 ไร่ เดิมชื่อวัดมหานิโครธาราม ซึ่งแปลว่า "ไทร" ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดไทรใหญ่" เมื่อ พ.ศ.2498 ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมเรื่องพระเจ้าสิบชาติ ปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัดคือ "หลวงพ่อทองคำ" ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน และประชาชนทั่วไป อาชีพหลักของชาวตลาดน้ำไทรน้อย คือการทำนา ทำสวน ปลูกผัก ผลไม้ โดยเกษตรกรไทรน้อยได้มีการรวมกลุ่มเพื่อนำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายที่ตลาดน้ำไทรน้อยแห่งนี้


ตลาดน้ำแห่งนี้ ปัจจุบันตั้งอยู่ริมคลองพระพิมลราชา ที่วัดไทรใหญ่ ตำบลขุนศรี อำเภอไทรน้อยมีทั้งแพอาหาร ซึ่งเป็นศูนย์รวมของอาหารนานาชนิด ทั้งผักปลอดสารพิษ ผลไม้ หลายชนิดและอาหารคาวหวานที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายริมฝั่งคลอง เช่น น้ำมะพร้าวหอมหวาน เย็นชื่นใจ เฉาก๊วย ที่มีทุกแบบ ทั้งเฉาก๊วยโบราณ เฉาก๊วยกำแพงเพชร เฉาก๊วยดอนเมือง เกาลัดกลิ่นหอม ที่คั่วให้ดูกันแบบสดๆ ร้อนๆ เป็ดพะโล้ เจ้าเก่า รสเด็ด ที่เป็นที่เลื่องชื่อ เป็นต้น อาหารเหล่านี้ล้วนแต่มีรสชาติอร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย และราคาไม่แพง สามารถเลือกซื้อเลือกหากันได้ตามใจชอบ มีแผงค้ากว่า 300 แผงค้าให้เลือกจับจ่ายใช้สอย พอทานอาหารและซื้อของฝากกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถชมทัศนียภาพและวิถีชีวิตของชาวนนทบุรี ที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งคลอง โดยยังคงสภาพความเป็นธรรมชาติ และความเป็นไทยอยู่ นอกจากนี้ หากใครชมบริเวณตลาดจนครบแล้ว ในบริเวณตลาดยังมีรถยนต์บริการนำชมสวนเกษตรท่องเที่ยวชมไม้ดอก ไม้ประดับ เช่น บอนสี กล้วยไม้ หรือชมสวนผลไม้ทางการเกษตร เช่น มะม่วง ทุเรียน ได้อีกด้วยเรียกได้ว่าสามารถสัมผัสกับธรรมชาติกันได้อย่างแท้จริงเลยทีเดียว
ที่มาข้อมูล
กรมการค้าภายใน
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: มีค่าใช้จ่าย
  - ต่างชาติ ผู้ใหญ่
:
  - ต่างชาติ เด็ก
:
  - ไทย ผู้ใหญ่
:
  - ไทย เด็ก
:
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
แปลงเรียนรู้ไม้ดอกเมืองหนาว - กล้วยไม้ซิมบิเดียมตัดดอก - แปลงทิวลิป แปลงเรียนรู้ไม้หอม - โรสแมรี่ - เจอราเนียม แปลงเรียนรู้การปลูกพืชเชิงอนุรักษ์บนพื้นที่สูง - อะโวคาโด - กาแฟอาราบิก้า - แมคคาเดเมีย รูปแบบวิธีการจัดกิจกรรม - มีจุดถ่ายรูป ลานจอดรถ ห้องน้ำ ให้บริการ - เดินชมแปลงเรียนรู้ (ไม้ดอก , ไม้หอม , พืชอนุรักษ์) พร้อมเรียนรู้การเพาะขยายพันธุ์ และการปลูก/ดูแลรักษา - มีจุดจำหน่ายสินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์, พืชผัก, ไม้ผล, พืชไร่ - มีบริการเครื่องดื่ม กาแฟ ชาเจียวกูหลาน - มีบริการบ้านพัก / จุดกางเต้นท์ การมีส่วนร่วมของนักท่องเที่ยว - ชม ชิม ช้อป สินค้าชุมชน ผลิตภัณฑ์กระเป๋า ของที่ระลึก สินค้าเกษตร ไม้ผลเมืองหนาว พืชไร่ พืชผักตามฤดูกาล - ถ่ายรูป เช็คอิน แปลงไม้ดอก/ทิวลิป - เดินชมแปลงเรียนรู้ภายในศูนย์ฯ - ดื่มด่ำบรรยากาศทะเลหมอกในฤดูหนาวของจังหวัดเชียงราย โปรแกรมการท่องเที่ยว: โปรแกรม 2 วัน 1 คืน วันที่หนึง 09.30 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เดินทางสู่ไร่เชิญตะวัน 10.00 แวะรับทานอาหารเช้า ณ ร้าน “ภูเทียนรีสอร์ท” / “จุ๋ยกุ้งเผา” 11.00 ไร่เชิญตะวัน ศึกษาธรรมะกับแนวคิดมหาวิชชาลัยพุทธเศรษฐศาสตร์ (สถาบันการศึกษาทางเลือก เพื่อการพัฒนาตามปรัชญาพุทธเศรษฐศาสตร์) เกษตรธรรมชาติแบบครบวงจร 12.00 ออกเดินทางจากไร่เชิญตะวัน แวะรับประทานอาหาร ณ ร้าน “ลานนาตะวันวา” 13.00 ชมการสาธิตการคั่วชาอัสสัมและการทำเมี่ยง แบบดั่งเดิมโดยชุมชนเกษตรกรวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย 14.00 ออกเดินทางจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตชาแม่ลอย สู่ไร่รื่นรมย์ ต.งิ้ว อ.เทิง 14.30 ชมความงดงามของฟาร์มออแกนิคโดยคนรุ่นใหม่ รับประทานอาหารว่าง จากไร่จากแปลงเกษตรอินทรีย์โดยตรงเพื่อสุขภาพเรียนรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งหลักการและการลงมือทำ 15.00 ออกเดินทางจากไร่รื่นรมย์ สู่ศูนย์ฯ ดอยผาหม่น 17.00 รับประทานอาหารค่ำแบบชนเผ่า ปิ้งย่าง กิจกรรมรอบกองไฟ พร้อมชมการแสดงจากกลุ่มยุวเกษตรกรชาติพันธุ์ ศิลปวัฒนธรรมชนเผ่าจากชุมชน ท่ามกลางธรรมชาติและอาทิตย์อัสดง วันที่สอง 04.30 ตื่นนอน ทำภารกิจส่วนตัว 05.00 เดินทางสู่ยอดภูชี้ฟ้า ชื่นชมทัศนียภาพอันงดงามตามธรรมชาติ ขุนเขาและทะเลหมอก 06.00 เดินทางกลับสู่ ศูนย์ฯ ดอยผาหม่น 07.00 รับประทานอาหารเช้า 08.00 รื่นเริงกับกิจกรรมทางการเกษตรของศูนย์ฯ ดอยผาหม่น ชมแปลงไม้หอม ดอกทิวลิป ชมความงดงามของแปลง ซิมบีเดียม และแปลงเรียนรู้การปลูกกาแฟ อโวคาโด และแมคคาเดเมีย ชิมกาแฟสด คุณภาพสูงจากเกษตรกรผู้ผลิต 12.00 พักรับทานอาหารกลางวัน 13.00 เดินทางสู่กลุ่มผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์บ้านบ้านพิทักษ์ไทย 13.30 เดินชมแปลงกาแฟอินทรีย์กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตกาแฟอินทรีย์บ้านพิทักษ์ไทย ร่วมศึกษากรรมวิธีการปลูกกาแฟอินทรีย์คุณภาพดี ซื้อสินค้าที่ระลึกจากชุมชนชาติพันธุ์ 14.30 เดินทางสู่หอนาฬิกาจังหวัดเชียงราย แลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย 16.00 ซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน อาหารพื้นเมือง ของฝาก ของที่ระลึก เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ: 1) ภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง ระยะทาง 11 ก.ม 2) ผาตั้ง ต.ปอ อ.เวียงแก่น ระยะทาง 36 ก.ม 3) ดอยชมดาว ต.ตับเต่า อ.เทิง ระยะทาง 6 ก.ม
เชียงราย
สวนผลไม้ที่ได้มาตรฐาน GAP เเละเป็นสวนทุเรียนที่มีอายุไม่ตำกว่า 40 ปี ทุเรียนมีรสชาติดี โดยส่วนใหญ่ผลผลิตของสวน จะเป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เเละทางสวนยังเปิดให้ชมสวนเเละชิมผลไม้ในบรรยากาศธรรมชาติ ร่มรื่น รอบล้อมไปด้วยผลไม้ไทย
ระยอง
พระธาตุยโสธร หรือ พระธาตุอานนท์ ตั้งอยู่หน้าอุโบสถ เป็นพระธาตุรุ่นเก่าที่สำคัญองค์หนึ่งในภาคอีสาน เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมส่วนยอดคล้ายพระธาตุพนม ภายในพระธาตุบรรจุอัฐิธาตุของพระอานนท์ การก่อสร้างได้รับอิทธิพลศิลปะลาวที่นิยมสร้างขึ้นเมื่อปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งตรงกับประวัติการตั้งเมืองและประวัติของวัดมหาธาตุ
ยโสธร
สวนผักครูสรรเสริญ แหล่งผลิตผักปลอดสารพิษบนเนื้อที่ 47 ไร่ เป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานของเกษตรกรในพื้นที่ และผู้ศึกษาดูงานทั่วไปเป็นอย่างดี ซึ่งได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดสระบุรี ในการส่งเสริมการผลิตผักปลอดภัย และการรวมกลุ่มเชื่อมโยงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชื่อมโยงตลาดเกษตรกร
สระบุรี
โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ ตั้งอยู่ที่อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร มีประวัติเล่าสืบกันมาว่าในปี ค.ศ.1908 มีผู้หนีตายอพยพจากที่ต่าง ๆ กัน เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้รวม 5 ครอบครัว ซึ่งหนีมาด้วยสาเหตุเดียวกัน คือ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบ ชาวบ้านในหมู่บ้านจึงรุมทำร้ายและขับไล่ เป็นโบสถ์หลังที่ 4 วางแผนก่อสร้างปี ค.ศ. 1936 ชาวบ้านพากันรวบรวมไม้ ลงมือสร้างปี ค.ศ. 1947 ตัวโบสถ์รูปทรงที่สร้างขึ้นมีลักษณะแบบศิลปะไทย กว้าง 16 เมตร ยาว 57 เมตร จัดเป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย ใช้แผ่นไม้เป็นแป้นมุง หลังคา 80,000 แผ่น ใช้เสาขนาดต่างๆกันถึง 360 ต้น ส่วนใหญ่เป็นเสาไม้เต็ง เสาในแถวกลางมีขนาดใหญ่ยาวที่สุดมี 260 ต้น สูงจากพื้นดินกว่า 10 เมตร พื้นแผ่นกระดานเป็นไม้แดงและไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ ม้านั่งไม้จุคนได้กว่าพันคน ระฆังโบสถ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 2 ฟุต อยู่ในหอระฆังสูงที่สร้างแบบหอระฆังตามวัดไทยทั่วไป แต่แปลกตรงที่แยกต่างหากจากโบสถ์ และเนื่องจากไม้ที่ได้รวบรวมมามีจำนวนมาก จึงได้นำไม้ที่เหลือมาสร้างโรงเรียนบ้านซ่งแย้พิทยา ข้อมูลและรูปภาพจากเว็บไซต์ : http://www.yasothon.go.th/web/file/menu4.html
ยโสธร
ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจ จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.2523 เป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีบทบาทหน้าที่หลักในการศึกษาวิจัย ทดสอบและประยุกต์เทคโนโลยีการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ ส่งเสริมและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาการผลิตขยายและกระจายพันธุ์แมลงเศรษฐกิจ ตลอดจนการ ให้บริการตรวจคุณภาพผลิตภัณฑ์เบื้องต้นและการตรวจวินิจฉัยโรคและศัตรูของแมลงเศรษฐกิจ แก่เกษตรกร และผู้สนใจ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้มาทำความรู้จักและเรียนรู้วีถีชีวิตของผึ้งและแมลงเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมเพื่อศึกษาดูงานและท่องเที่ยวในจุดเรียนรู้ที่ศูนย์ฯ ได้จัดแสดง ได้แก่จุดเรียนรู้การเลี้ยงผึ้งพันธุ์ ผึ้งโพรง ชันโรง จิ้งหรีด ครั่ง นางพญาผึ้ง และการแปรรูปผลิตภัณฑ์ และยังจัดให้มี จุดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “Honey Shop” ที่นักท่องเที่ยวสามารถชม ชิม และเลือกซื้อน้ำผึ้งแท้ คุณภาพดี และผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ โปรแกรมการท่องเที่ยว : จุด/ฐานเรียนรู้ กิจกรรมที่น่าสนใจ 1.ผึ้งพันธุ์ เปิดบ้านผึ้งพันธุ์ (ทำความรู้จักกับผึ้งวงจรชีวิตและความเป็นอยู่ของผึ้งในรัง) การเลี้ยงและการดูแลจัดการตรวจสุขภาพผึ้ง การเก็บน้ำหวานเกสรดอกไม้ และยางไม้ การตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำผึ้งเบื้องต้น 2.ผึ้งโพรง ผึ้งโพรงผึ้งป่าสร้างรายได้ (ทำความรู้จักกับผึ้งโพรงและการสร้างรังตามธรรมชาติ เทคนิคการล่อเลี้ยงผึ้งโพรงแบบดั้งเดิม การเลี้ยงผึ้งโพรงแบบสมัยใหม่ การดูแลป้องกันศัตรูของผึ้งโพรง เทคนิคในการเก็บน้ำผึ้งคุณภาพดี 3.ชันโรง เปิดบ้านชันโรง (ทำความรู้จักกับผึ้งจิ๋วมหัศจรรย์สุดยอดนักผสมเกสร) เทคนิคการล่อเลี้ยงชันโรงจากธรรมชาติและ การขยายพันธุ์ พฤติกรรมการเก็บน้ำหวาน เกสร และยางไม้ของชันโรง การทำสารสกัดจากยางไม้และการใช้ประโยชน์ 4.จิ้งหรีด จิ้งหรีดแหล่งอาหารโปรตีนสำรองของโลก สายพันธุ์จิ้งหรีดที่มีการเลี้ยงเป็นการค้า เทคนิคการเลี้ยงและการจัดการที่ได้มาตรฐาน การแปรรูปจิ้งหรีดเป็นอาหาร จุด/ฐานเรียนรู้ กิจกรรมที่น่าสนใจ 5.ครั่ง ทำความรู้จักแมลงครั่ง/วงจรชีวิตและประโยชน์ แปลงพันธุ์ไม้ใช้เลี้ยงครั่ง เทคนิคการเลี้ยง ดูแลและการเก็บเกี่ยวผลผลิต เทคโนโลยีการคุ้มครองและอนุบาลพันธุ์ครั่งในช่วงฤดูแล้ง 6.นางพญาผึ้ง เปิดประสบการณ์ค้นหานางพญาราชินีของผึ้งในรัง กำเนิดนางพญาผึ้ง การทำหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ของราชินีผึ้ง เทคนิคการเพาะนางพญาผึ้ง 7.แปรรูปผลิตภัณฑ์ ชม/ชิม/สัมผัส ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จากผึ้งของขวัญจากธรรมชาติ ประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากผึ้ง ข้อแนะนำในการเลือกซื้อน้ำผึ้ง การนำผลิตภัณฑ์จากผึ้งมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ของใช้ในชีวิตประจำวัน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ : - สวนสัตว์กลางคืนเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ระยะทาง 750 ม. - อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ระยะทาง 1 กม. - วัดอินทราวาส (วัดต้นเกว๋น) ระยะทาง 2.5 กม. - วัดพระธาตุดอยคำ ระยะทาง 4.4 กม. - ศูนย์หัตถกรรมบ้านถวาย ระยะทาง 10 กม. - เวียงกุมกาม ระยะทาง 11 กม.
เชียงใหม่
ฟาร์มเมล่อนคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจทุกการผลิต ด้านในประกอบด้วย ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก สวนเมล่อน ครบวงจรในที่เดียว
สระบุรี
อาณาจักรสวนดอกไม้แห่งวังน้ำเขียว ‘ฟลอร่า พาร์ค’ อาณาจักรทุ่งดอกไม้นานาชนิดแห่งอำเภอวังน้ำเขียว ที่มีพื้นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ภายในมีดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ ยังมีโซนโรส พาร์ค ที่เป็นสวนสวยเต็มไปด้วยดอกกุหลาบหลากสายพันธุ์ โดยจะได้พบกับสวนดอกไม้นานาพันธุ์ อุโมงค์ดอกไม้ กำแพงดอกไม้ และราชินีแห่งดอกไม้งาม รวมไปถึงพันธุ์ดอกไม้หายากที่สามารถเพาะพันธุ์ได้เฉพาะที่วังน้ำเขียวเท่านั้น
นครราชสีมา
เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบครบวงจร ภายในมีทั้งห้องพัก แพพัก ร้านอาหาร คาเฟ่ สระว่ายน้ำ และรางรถไฟนั่งชมบรรยากาศ นั่งได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยซื้อตั๋วนั่งรถไฟ 1. ผู้ใหญ่ 90 บาท/คน 2. เด็ก 50 บาท/คน 3. เด็กความสูงไม่ถึง 100 ซม. ฟรี
กาญจนบุรี
การทำเกษตรตามแนวพระราชดำริ การเกษตรพอเพียงเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า และเป็นจุดแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรทฤษดีใหม่
แพร่
ผลิตและจำหน่าย ผักปลอดสารพิษ มากกว่า 50ชนิด และยังเปิดให้ความรู้สำหรับผู้ที่สนใจปลูกผัก นอกจากผักสดแล้วยังมีกาแฟสด อุปกรณ์เพาะปลูกขายด้วย ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดพันธุ์ ดินเพาะ ดินปลูก ถาด กระถาง รวมถึงฮอร์โมนนมสด
สระบุรี
บ้านจำรุงเป็นหมู่บ้านเล็กๆ สมาชิกเหมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกันทั้งหมด แต่เดิมมีลุงสำเริง ดีนาน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “โอท็อปโบราณ” ก่อนจะพัฒนาเป็นศูนย์โอท็อปชาวบ้าน นำสินค้าผลผลิตทางการเกษตรในชุมชนมาขาย นอกจากนี้ ยังเปิดแหล่งท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ มีรถพาชมสวน ได้ทั้งการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ และความรู้จากปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแบบชาวบ้าน ทั้งเกษตรพื้นบ้านไร้สารเคมี เกษตรธรรมชาติกองทัพมด เป็นตัวอย่างนำกลับไปใช้ได้จริง โดยเริ่มลงมือทำตั้งแต่ปีพ.ศ.2529 กระทั่งมีผลงานเป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือของชาวบ้านที่เข้มแข็ง จากที่ประชุมกันในครัวเรือน กลายเป็นเครือข่ายองค์กรบ้านจำรุง ที่มีการประชุมร่วมกันทุกวันที่ 15 ของเดือน เป็นเวทีสาธารณะ หรือเวทีชาวบ้าน ที่มีทั้งเด็ก เยาวชน และคนแก่ เข้าร่วม ต่อมาปี พ.ศ.2549 จึงจัดตั้งเป็น “มหาวิทยาลัยบ้านนอก” เพื่อการเรียนรู้ของสังคม กระทั่งได้รับรางวัล “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็นเป็นสุข” จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นก็มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาศึกษาหาความรู้กันอย่างไม่ขาดสาย เป็นสิ่งที่ชาวบ้านภาคภูมิใจ
ระยอง