คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ภูถ้ำพระ
- ตำบลคำน้ำสร้าง อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร 35140
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันจันทร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันอังคาร
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพุธ
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันศุกร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
• วันเสาร์
: 09:00 น. - 16:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
ภูถ้ำพระ เป็นถ้ำใหญ่กว้างประมาณ 3 วา ยาวประมาณ 8 วา ตั้งอยู่ชะง่อนภูด้านทิศใต้ มีทางเข้าไปตามซอกหิน ซึ่งตั้งสูงสุดตระหง่านอยู่รอบ ๆ เป็นอุโมงค์ จากปากถ้ำเลยไปทางทิศเหนือ สามารถเดินลอดไปได้อย่างสบาย ถ้ำพระนี้มีธรรมชาติ เป็น 2 ชั้น เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปซึ่งตั้งเรียงรายอยู่เป็นแถว ๆ และมี พระพุทธรูปปางไสยาสน์ พระกัจจายนะ 2 องค์ สร้างสมัยอาจารย์ดี ฉันโน อยู่ในถ้ำนี้อย่างงดงาม ภูถ้ำพระ เป็นพื้นที่ภูเขาขนาดเล็ก เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ มีป่าไม้เบญจพรรณขึ้นอยู่ทั่วไปค่อนข้างสมบูรณ์ ให้ความ ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลำห้วยหลายแห่ง เสาหินลักษณะคล้ายแหล่งท่องเที่ยวภูผาเทิบ และมีจุดชมวิวเป็นแหล่งธรรมชาติที่สวยงามใกล้ทางขึ้นจะมีซุ้มประตูอิฐก่อเป็น “ภูโง” ชาวบ้านเรียกประตูโขง ซึ่งตั้งอยู่ด้านเหนือของ ภูถ้ำพระ ไปไกลประมาณ 1 กิโลเมตร ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง ความศักดิ์สิทธิ์ของภูถ้ำพระที่ได้เล่าสืบทอดกันต่อมาคือ หากชาว บ้านบริเวณนั้นจะออกหาของป่า ต้องมาที่ถ้ำแห่งนี้เพื่อสักการะ แล้วจะมีโชคในการทำมาหากินและแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง
ประวัติความเป็นมา
วัดภูถ้ำพระ เป็นวัดหนึ่งที่พระอาจารย์ดี ฉนฺโน ได้สร้างวัดขึ้นเป็นวัดฉลองกึ่งพุทธกาล พ. ศ. 2500 มีพระเณรมาอยู่จำพรรษาหลายรูป ปัจจุบัน วัดภูถ้ำพระ เดิมตั้งอยู่ที่อำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตปกครองของหลวงปู่สุนทรศีลขันธ์ หลวงปู่สิงห์ทอง ศิลขันธ์ ให้พระครูจิตตภาวนานุสิฐ ( พระอาจารย์สมหมายจิตต์ โน ปาโล ทานะสิงห์) เป็นเจ้าอาวาสวัดและท่านพร้อมกับชาวบ้านหลาย ๆ หมู่เหล่า ได้พัฒนาวัดเจริญขึ้นเป็นลำดับ จนถึงปัจจุบัน ความเป็นมา ภูถ้ำพระ ตั้งอยู่บ้านหินโหง่น ตำบลกุดแห่ อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร อยู่ในเขตป่าสงวนเสื่อมโทรม จะมีป่าไผ่ ป่าเพ็ก ขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่มหัศจรรย์แปลกตาแปลกใจแก่ผู้พบเห็น ธรรมชาติปรุงแต่งเอง ในบริเวณสถานที่วัด มีถ้ำที่แปลกตาหลายถ้ำ เช่น ถ้ำพระ ถ้ำเกลี้ยง ถ้ำพรมบุตร ถ้ำเค็ง ถ้ำเกีย ( ค้างคาว) ลานงูซวง หน้าผา อ่างเรือ เจดีย์พระอาจารย์ดี ฉนฺโน ลักษณะเด่นของถ้ำที่สำคัญ 1) ถ้ำพระ ถ้ำพระเมื่อก่อนผู้คนเดินทางไปกราบหรือว่าพักผ่อนภายในถ้ำ จะพูดจาจะระวังทุก ๆ คำพูด พูดคำหยาบคาย พูดตลกคะนอง ด่าฉันเสียดสีเป็นไม่ได้มีอันเป็นไปชั่วกระพริบตา มีครั้งหนึ่งนายท่อนไปเลี้ยงวัวควายตามประสาคนชนบท ไปจับเอากบในถ้ำพระ เพื่อเป็นอาหารกลางวันพอกลับมาถึงบ้านได้ป่วยกะทันหันตายในที่สุด ของคืนวันนั้น ต่อมาก็มีอีกคนหนึ่งชื่อเจ๊กใหญ่ มาทำการค้าขายอยู่ที่บ้านกุดแห่ มีโอกาสได้ขึ้นไปบนภูถ้ำพระ แล้วหยิบเอาพระทองคำในถ้ำ 1 องค์ เพื่อจะไปบูชาเป็นการส่วนตัว พอกลับถึงบ้านแล้วนายส่อง ซึ่งเป็นลูกชายก็ล้มป่วยโดยกระทันหัน ตายในที่สุดของวันนั้น พ่อก็ได้ทำการฌาปนกิจศพตามประเพณี ผู้เป็นพ่อก็จึงนำพระพุทธรูปองค์นั้นไปส่งยังถ้ำเหมือนเดิม จากนั้นผู้คนต่าง ๆ ที่หยิบเอาพระพุทธรูปจากถ้ำพระก็มีความกลัวตาย จึงนำไปส่งทุก ๆ คนสมัยนั้น ต่อมาอีกก็มีนายกว้าง บัวศรี ได้กระทำล้อเลียนเหมือนคนโฆษกขายยาเอาใบไม้มาทำเป็นไมค์ลำโพง แล้วก็พูดให้เพื่อนฟังว่าเราเป็นโฆษกขายยานะทุก ๆ คน ให้มาซื้อที่เราได้ราคาเป็นกันเองนะ พอกลับถึงบ้านก่อนเข้านอน ปากรู้สึกคัน ๆ พอเอามือมาจับดูปากก็บิดทันทีไม่สมารถจะกลับคืนได้ พอวันรุ่งขึ้นพ่อแม่พี่น้องก็ได้นำนายกว้าง ไปขอขะมาลาโทษที่ล่วงเกิน ปากที่บิดก็กลับคืนเหมือนเดิม ความอัศจรรย์ความศักดิ์สิทธิ์ของภูถ้ำพระสมัยก่อนเป็นความจริงทุกประการ เล่าต่อกันว่าพ่อผู้ใหญ่บ้านชัยเสน ได้พาพรานไปล่าสัตว์บนภูเพ็กแห่งนี้ มีพรานแก้วดวงดี พรานหอมสมบัติ พรานไชยราช และพรานพรมบุตร พร้อมกับพักพวกอีกจำนวนหนึ่งได้ไปล่าสัตว์บนภูแห่งนี้ และได้ไปพบเห็นพระพุทธรูป ในถ้ำจำนวนมากมาย อาทิเช่น พระแก้ว พระงา พระทองแดง พระทองคำ พระไม้จันทร์ พระไม้อื่น ๆ รวมทั้งเหล็กไหล ซึ่งนายพรานทั้งหมดขึ้นไปล่าสัตว์จะบอกเล่าว่าในถ้ำพระ จะมีผีมเหศักดิ์ และงูเหลือมยักษ์ เป็นผู้รักษาถ้ำแห่งนี้ ถ้ามีคนขึ้นไปบริเวณภ้ำพระและทำมิดีมิร้ายจะเกิดอาการเจ็บป่วยหรือตายไปก็มี ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งนายพรานบอกเล่าว่าเป็นภูเขาที่มีอาถรรพ์และเป็นสิ่งที่ศักด์สิทธ์มาก ปัจจุบันนี้ป่าเพ็กยังพบเห็นอยู่แต่ไม่มากนัก ส่วนพระพุทธรูปจะมีพระพุทธรูปไม้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นพระพุทธรูปสมัยไหน ส่วนเหล็กไหลตามคำบอกเล่าของพระอาจารย์สมหมายฯ เจ้าอาวาสวัด ท่านบอกว่ายังมีอยู่ในบริเวณภูถ้ำพระแห่งนี้ ซึ่งพระอาจารย์บอกว่าได้สร้างพระนอนและพระสังกัจจาย ทับบริเวณนั้นไว้ ส่วนพระงานั้นชาวบ้านได้ถือครอบครอง ต่อมาพระอาจารย์สมหมายฯ ลูกศิษย์อาจารย์ดี ฉนฺโน ผู้ซึ่งได้มาปฏิบัติธรรมบริเวณภูถ้ำพระเป็นคนแรกได้พาญาติโยมมาตั้งวัดภูถ้ำพระขึ้นบริเวณทางทิศเหนือของหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงเรียกภูถ้ำพระ ซึ่งก่อนนั้นจะเรียกว่า " ภูเพ็ก" โดยพระอาจารย์ดี ฉนฺโน พระลูกศิษย์อาจารย์ฝั่น ได้มาปฏิบัติธรรมและเดินธุดงค์บริเวณภูเพ็กแห่งนี้ จนกระทั่งพระอาจารย์ดี ฉนฺโน ได้มรณะภาพ เมื่อปี พ . ศ. 2502 พระอาจารย์สมหมายฯ และหลวงปู่สิงห์ทองฯ ได้สร้างเจดีย์พระอาจารย์ดี ฉนฺโน ขึ้นในปี พ . ศ. 2527 เพื่อเป็นที่สักการะ แต่เมื่อปี พ. ศ. 2540 ได้เกิดฟ้าผ่าเจดีย์พระอาจารย์ดี ฉนฺโน ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่ได้บูรณะเจดีย์ เนื่องจากอาจารย์หงษ์ทอง ธนะกัญญา ผู้ที่จะบูรณะเจดีย์พระอาจารย์ดีฯ เกิดล้มป่วย อย่างหนักจนทุกวันนี้ไม่กล้าที่จะขึ้นไปบูรณะเจดีย์ บนภูแห่งนี้ เมื่อได้มีการค้นพบเป็นแหล่งท่องเที่ยว ภูถ้ำพระแห่งนี้มีจุดประทับใจและเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์และสำคัญมากมายในบริเวณภูเขาแห่งนี้ 2 ) ถ้ำเกลี้ยง ถ้ำเกลี้ยงเป็นถ้ำที่มีลักษณะที่คล้ายกับมีคนเอาอะไรไปขัดสีทุก ๆ วันทำนองนั้น สีสันเป็นแววตาหาดูได้ยาก จากตำนานบอกเล่าของนายพรานที่ไปล่าสัตว์ว่า " มีพระแก้วลงมายอกล้อเล่นกันบริเวณถ้ำนี้ทุกวันพระในเวลากลางคืนจะมีรูปร่างเท่าส้มโอจะมาเล่นกันในบริเวณนี้คืนละประมาณ 2-3 ลูก บุคคลที่เห็นพระแก้วเป็นหมอธรรมในหมู่บ้าและเป็นผู้มีที่นาติดกับภูถ้ำพระแห่งนี้ คือ นายบุญยู้ สารสุข ถ้ำนี้จะมีลักษณะเป็นสีเขียวเหมือนปีกแมลงภู่ทั้งข้างบนและข้างล่าง และมีลักษณะแปลกมากคือหินจะทับกันเป็นชั้น ๆ ชั้นบนสุดจะเป็นช่องกระจกตรงกลาง คนสามารถผ่านไปมาได้ จึงมีตำนานเล่าว่าพระแก้วมาประทับเล่นในบริเวณชั้นบนสุดของหิน จับบริเวณตรงช่องกระจกและบริเวณถ้ำจะเรียบเนียนเป็นสิ่งมหัศจรรย์ถ้าได้ไปสัมผัสบนถ้ำเกลี้ยงแห่งนี้ 4) ถ้ำเค็ง( ถ้ำจันทร์) จะอยู่ทางตะวันออกของหน้าผาลักษณะถ้ำเป็นเพิงหิน พื้นเรียบกว้าง 4 เมตร ยาว 30 เมตร แต่โบราณเล่าว่ามีรอยพระฤาษีหรือพระกรรมฐานธุดงค์มาอาศัยปฏิบัติธรรม เพราะมีร่องรอยการต้มน้ำร้อนเพื่อฉันท์ บริเวณถ้ำสามารถ จุคนได้ 200 คน โดยไม่เปียกฝน เมื่อ 50 ปีก่อนยังค้นพบกระดูกเต็มไปหมดในถ้ำนี้ เหตุที่เรียกถ้ำนี้ว่า " ถ้ำเค็ง" เพราะ เนื่องจากมีต้นเค็งใหญ่อยู่ด้านข้างของถ้ำ 5 ) ถ้ำเกีย ( ถ้ำค้างคาว) ถ้ำนี้จะมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้ำเกีย มีลักษณะเป็นภูหินโดยจะติดกันถึง 3 ลูก ซึ่งกว้าง 3 เมตร ยาวประมาณ 8 เมตร ความลึกประมาณการไม่ได้ เวลามองลงไปด้านล่าง ( ก้นถ้ำ) ยิ่งลึกยิ่งแคบลงมาก นายพรานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเคยเอาแห มาดักค้างคาวบริเวณปากถ้ำ และจะไล่ค้างคาวออกจากถ้ำเพื่อให้มาติดร่างแห แต่ละคืนจะได้ค้างคาวคืนละ 100-200 ตัว เวลากลางคืนจะได้ยินเสียงค้างคาวร้องเหมือนเสียงไก่ นายพรานว่าเป็นเสียงผีค้างคาว ที่หวงลูกไก่ ( ลูกค้างคาว) มันไม่ต้องการให้ใครเข้าไปขโมยลูกมันออกมา ถ้าไปดักอีกมันจะฆ่าให้ตาย คนจึงกลัวและไม่กล้าที่จะขึ้นไปดักค้างคาวบนถ้ำอีก ปัจจุบันนี้ นอกพรรษา ค้างคาวนับหมื่นตัว จะมาอยู่ที่สวนตาลเดี่ยว ของมหาเมฆ มุกธวัตร , หลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร ก็ขอแผ่ไม่ให้คนจับ พอช่วงเข้าพรรษา ค้างคาวเหล่านี้ ก็จะกลับคืนถ้ำเดิม
ที่มาข้อมูล
Thailand Tourism Directory
ข้อมูลแนะนำ
กลุ่มนักท่องเที่ยว
• กลุ่มครอบครัว
• กลุ่มวัยทำงาน
• กลุ่มนักเรียนนักศึกษา / เยาวชน / วัยรุ่น
• กลุ่มสตรี
• กลุ่มท่องเที่ยวเชิงศาสนา
• กลุ่ม MICE / ศึกษาดูงาน
• กลุ่มศิลปวัฒนธรรม / ประวัติศาสตร์
• กลุ่มวิถีชีวิต / ชุมชน / วิถีเกษตร
การเดินทาง
• มอเตอร์ไซด์
• เดินเท้า
• รถยนต์
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: ไม่มีค่าใช้จ่าย
• หมายเหตุ : -
สิ่งอำนวยความสะดวก
ลานจอดรถ
สุขา
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
สวนที่ 1 สวนสละเฮียถึก สำหรับผู้ที่ชอบทานสละ มาที่นี้รับรองจะติดใจในรสชาติและอัธยาศัยที่น่ารักเป็นกันเองของเจ้าของสวน สวนสละเฮียถึกให้บริการชมสวน ชมวิถีชีวิตชาวสาน และชิมผลไม้ มีผลไม้สดไว้ให้ซื้อหากลับบ้านกันด้วย กิจกรรม : กินผลไม้ (400บาท/คน)ชมสวน เรียนรู้การทำสวนสละ จำหน่ายผลไม้สด สวนที่ 2 สวนอิสรีย์ฟาร์มม้าไทย เหมาะทั้งแบบครอบครัว มาเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง หรือต้องการส่วนตัว กิจกรรม - เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ - การขี่ม้าชมสวนผลไม้ - นั่งรถรางชมสวนผลไม้ - จุดเรียนรู้การทำสบู่ - อาชาบำบัด - สาธิตการแปรรูปทุเรียนชิมทุเรียนหนุบหนับ เค้ก - กินผลไม้ ท่านละ 400 บาท - ที่พักโฮมสเตย์ สวนที่ 3 สวนวดี กิจกรรม - ชมสวน - กินผลไม้ ท่านละ 400 บาท - จำหน่ายผลไม้สด สวนที่ 4 สวนอรุณบูรพา ที่นี้ให้บริการชมสวย ชิมผลไม้ และซื้อผลผลิตกลับบ้าน ออกมาแวะเที่ยววัดเขาสุกิมชมความงดงามของพิพิธภัณฑ์วัดเขาสุกิม กิจกรรม - ปั่นจักรยานชมสวน - เรียนรู้วิธีการแปรรูปผลไม้ เช่น ทุเรียนทอด แครกเกอร์ทุเรียน- เรียนรู้วิธีการปลูกและการดูแลสวนทุเรียน - กินผลไม้ (400 บาทต่อคน ) สวนที่ 5 สวนรินรดี กิจกรรม - มีที่พักระดับโรงแรม จำนวน 3 ห้อง พร้อมอาหารเช้า รับได้ 10 ท่าน ( มีห้องสำหรับ 2 คน 1ห้อง และสำหรับ4 ท่าน 2 ห้อง) - มีบริการ wifi - มีระบบความปลอดภัย มีกล้องวงจรปิด - มีกิจกรรมเที่ยว ชม ชิม ทานผลไม้ อิ่มไม่อั้น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง - มีรถพาไปผจญภัยในสวนผลไม้ ไปดูทุเรียนพันธุ์อีหนัก ดูต้นสาละ และเดินเล่นในสวนผลไม้ - มีสนามเด็กเล่น ชิงช้า ม้าหมุน สะพานโค้ง - มีห้องน้ำ หญิง ชาย และคนพิการ - บนจุดชมวิว สามารถมองเห็น เขาคิชกูฎ เขาสุกิม เขาแกลบ เขาลูกช้าง - มาดูกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า - มีผลไม้และผักในสวนจำหน่าย เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลองกอง ในราคาถูก โปรแกรมการท่องเที่ยว เที่ยวชมสวน ไม่ทานผลไม้ ท่านละ 50 บาท เที่ยวชมสวน ทานผลไม้ ท่านละ 400 บาท ที่พัก รวมอาหารเช้า  สำหรับ 2 ท่าน ราคา 990 บาท  สำหรับ 4 ท่านราคา 1,990 บาท  ท่านที่มาพักและทานผลไม้จะเหลือเพียงท่านละ 350 บาท จากราคา 400 บาท ปฏิทินท่องเที่ยว ที่พัก เที่ยวชมสวน = ทั้งปี เที่ยวชมสวน/ทานผลไม้ = ปลายเมษา- ปลายกรกฎา หรือจนกว่าผลไม้จะหมด สินค้า ทุเรียนทอดกรอบ ทุเรียนกวน พริกไทย ผลไม้สด เงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) -  วัดเขาสุกิม  ระยะทาง 8 กิโลเมตร - หาดเจ้าหลาว อำเภอท่าใหม่ ระยะทาง 25  กิโลเมตร - น้ำตกกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ  ระยะทาง 20 กิโลเมตร - ศาลหลักเมือง   ระยะทาง 20 กิโลเมตร -  ตลาดชุมชนริมน้ำ ระยะทาง 20  กิโลเมตร -  อู่ต่อเรือเสม็ดงาม ระยะทาง 25  กิโลเมตร -  ท่องเที่ยวเชิงเกษตรเชาบายศรี ระยะทาง 15 กิโลเมตร สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน - ผลไม้สดตามฤดูกาล - ทุเรียนทอด - ทุเรียนกวน - แครกเกอร์ทุเรียน - พริกไทย - เค้กทุเรียน
จันทบุรี
ท่องเที่ยวแบบภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีในชุมชนเป็นศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
อุบลราชธานี
บุฟเฟต์ผลไม้ ปันจักรยานและนั่งรถไถชมสวนผลไม้ จำหน่ายผลไม้คุณภาพ แและผลิตภัณฑ์แปรรูป ของฝาก
ระยอง
บ้านซำขี้เหล็ก เดิมเป็นพื้นที่ปลูกพืชไร่ ได้แก่ ข้าวโพด มันสำปะหลัง เป็นต้น (คำว่า "ซำ" แปลได้ว่าเป็นพื้นที่ซับน้ำ หรือชำน้ำ) บุคคลที่เข้ามาบุกเบิกในระยะแรกๆ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2510-2512 เป็นชาวจังหวัดยโสธรเข้ามาจับจองที่ดินช่วงแรกยังคงปลูกข้าวโพดและมันสำปะหลัง ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2530-2535 มีชาวบ้านที่ไปประกอบอาชีพรับจ้างทางภาคตะวันออกแถวจังหวัดจันทบุรี ระยอง และตราด ได้นำความรู้เกี่ยวกับการปลูกยางพารา ไม้ผล เช่น เงาะ ทุเรียน และไม้ผลอื่นๆ กลับมาทดลองปลูกในพื้นที่ของตนเอง ปรากฏว่ามีการเจริญเติบโตดีและให้ผลผลิตที่ดี ในส่วนของผลไม้มีรสชาติที่แตกต่างจากทางภาคตะวันออกของไทย และผลผลิตที่ออกก็ไม่ตรงกับภาคอื่นๆ ในปัจจุบันมีการขยายพี้นที่การปลูกเงาะ ทุเรียน และยางพารา ประชากรส่วนใหญ่ของบ้านซำขี้เหล็กประกอบอาชีพการเกษตร งานประเพณีที่สำคัญ ได้แก่ งานบุญเดือนสี่ ประเพณีบุญพเวส งานวันสารทลาว (ไหว้บรรพบรุษ)
ศรีสะเกษ
-ชม ชิม ช็อป สินค้าชุมชนตลาดน้ำท่าคา (ตลาดน้ำมีทุกวันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และทุกวันขึ้นและแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ) -ลงเรือพายชมธรรมชาติริมฝั่งคลอง ไปตามเส้นทางเสด็จประพาสต้น ร.5 ณ บ้านกำนันจัน เป็นบ้านเรือนไทยเก่าแก่ (จองก่อนเข้าชมบ้านกำนันจัน) -เยี่ยมชมกิจกรรมชุมชน ร่วมทำกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ต่างๆของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร ตลาดน้ำท่าคาจากเรื่องราวของมะพร้าว ชมภูมิปัญญาการทำน้ำตาลมะพร้าว ได้แก่ - การขึ้นเก็บน้ำตาลมะพร้าวจากต้น - การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวแบบโบราณ - เติมความหวาน เรียนรู้การทำขนมโบราณจากน้ำตาลมะพร้าวท่าคา - การจักสานก้านมะพร้าว ภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนท่าคา - การจักสานทางมะพร้าวสด นำมาสานเป็นหมวก ตะกร้า ฯลฯ - เรือดุ๊กดิ๊กจากกาบมะพร้าว
สมุทรสงคราม
1. สวนมณีทิพ สวนผลไม้ผสมผสาน เช่น ขนุน ส้มโอ ทุรียน ฯลฯ ที่อยู่ 784/3 หมู่ที่ 7 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 081-2803176 2. สวนศรปัก ดอกหน้าวัว ไม้ดอก ไม้ประดับ ที่อยู่ 255 หมู่ที่ 10 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 081-9727449 3. ต้นพระศรีมหาโพธิ์ วัดไผ่ใหญ่ไพรญาราม ที่ตั้ง หมู่ที่ 10 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง 4.น้ำตกไผ่สีทอง ที่ตั้ง หมู่ที่ 13 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง 5. ฟาร์มกวางแดง RED DEER FARM เลี้ยงกวางดาว กวางรูซ่า และกวางแดง พร้อมจำหน่ายเนื้อกวาง และผลิตภัณฑ์จากกวาง ที่อยู่ 568/3 หมู่ที่ 10 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 095-5322207 6.สวนเกษตรไพบูลย์ ศูนย์เรียนรู้การเกษตร ไม้ผลผสมผสาน เช่น มะขามเปรี้ยวยักษ์ มะม่วง มะยงชิด อินทผลัม ฯลฯ และที่พัก ที่อยู่ 3/1 หมู่ที่ 9 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 089-6421461 087-3109216 7. สวนโพธิ์ทอง สวนผลไม้ผสมผสาน เช่น ลำไย ขนุน มะม่วง มะนาว ฯลฯ และจำหน่ายพันธุ์ไม้ผล ที่อยู่ 284 หมู่ที่ 9 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 089-0112741 8.กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรซำตะเคียน ผลิตภัณฑ์แปรรูปผลผลิตการเกษตร ไม้ผล พืชผัก ที่พัก และอาหาร ที่อยู่ 285/1 หมู่ที่ 9 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 081-4744310 9. สมพลการ์เดนท์ สวนผลไม้ผสมผสาน เช่น มังคุด เงาะ ลำไย มะไฟ ฯลฯ ที่อยู่ 304 หมู่ที่ 9 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 081-1359777 10. ภักดีฟาร์ม เลี้ยงกวาง พร้อมจำหน่ายเนื้อ และผลิตภัณฑ์จากกวาง ที่อยู่ หมู่ที่ 9 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 081-8452993 11. บ่อคาการ์เดนท์ ผักปลอดภัยจากสารพิษ ที่อยู่ 148 หมู่ที่ 9 ตำบลวังนกแอ่น อำเภอวังทอง โทร. 094-6265551 12. บ้านและสวนพูพูน สวนมะยงชิด ที่พักและอาหาร ที่อยู่ 43/2 หมู่ที่ 9 ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง โทร. 081-9737839 13. สวนหลงรักไทย สวนทุเรียนหลงรักไทย พร้อมจำหน่ายกิ่งพันธุ์ ที่อยู่ 10/2 หมู่ที่ 9 ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง โทร. 083-3333316 14. สวนพงษ์แตง สวนลำไย ที่พัก และอาหาร ที่อยู่ 437 หมู่ที่ 7 ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง โทร. 081-9917073 โปรแกรมการท่องเที่ยว : 2 วัน 1 คืน เยี่ยมชมและชิมผลไม้ตามฤดูกาล รสเด็ด หวาน หอม สด ๆ จากสวนของสมาชิกกลุ่ม เพลิดเพลินกับการ “ชมพระอาทิตย์ตกดิน” ที่มีคำล่ำลือว่าสวยที่สุด ณ บ้านชำตาเจียม Check-in เข้าสู่ที่พักแบบ “บ้านพักในสวน” สัมผัสวิถีชีวิตชาวสวน พร้อมชมศูนย์การเรียนรู้บัวสวรรค์ หมู่ที่ 10 บ้านวังนกแอ่น รับประทานอาหารเย็นทีบ้านซำตาเจียม ชม พร้อม“พญาหิ่งห้อย” ที่พร้อมเรืองแสงต้อนรับทุกท่าน พักผ่อนตามอัธยาศัย รับประทานอาหารเช้าที่ที่พัก เยี่ยมชมวิธีการเลี้ยงกวางของคนท้องถิ่น “ฟาร์มกวาง” , เดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติพร้อมเล่นน้ำที่ “น้ำตกไผ่สีทอง” และชมวิธีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรที่บ้านซำตะเคียน พร้อมซื้อของฝากจากชาวสวน เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ : -ห่างจากน้ำตกไผ่สีทอง ระยะทาง 5 กม. -ห่างจากทุ่งโนนสน ระยะทาง 20 กม.
พิษณุโลก
น้ำตกผาแดง มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง คือ จุดชมวิวเนินสววรค์ อุโมงค์ถ้ำ 3 มิติ และน้ำตกสะพานลาว
กาญจนบุรี
บรรยากาศภายในวัดร่มรื่น ทางเข้าโบสถ์เพื่อเข้าไปสักการะพระพุทธรูป เป็นซุ้มปรตูตกแต่งสวยงาม โดยด้านบนคือพระราหูอมจันทร์ อีกทั้งมีพญาต่อยักษ์ ให้เข้าไปกราบไหว้ขอโชคลาภ เชื่อว่าช่วยต่อเงิน ต่อทอง เมื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธ์เรียบร้อย สามารถเดินทางไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณต่อได้ เนื่องจากวัดวังจาน อยู่ก่อนถึงน้ำตกเอราวัณ
กาญจนบุรี
วิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตชาเขียวใบหม่อนถ้ำมังกรทอง ศูนย์ผลิตชาเขียว และปลูกหม่อนอินทรีย์เพื่อส่งออก ของชุมชนถ้ำมังกรทองในจังหวัดกาญจนบุรี
กาญจนบุรี
กุดกะเหลิบ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ กุดกะเหลิบเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ น้ำใสมองเห็นตัวปลา อยู่ในเขตตำบลหนองเป็ดและตำบลหนองหิน เดิมเป็นเพียงแหล่งน้ำที่ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ในการทำเกษตรกรรม และจับสัตว์น้ำ้เพื่อเลี้ยงชีพเท่านั้น แต่ปัจจุบันจังหวัดยโสธร ได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจ โดยการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม เป็นที่จัดงานสงกรานต์ของจังหวัดทุกปี มีประชาชนได้มาเที่ยวชมและพักผ่อนอยู่เสมอในวันหยุด การเดินทางมาเที่ยว กุดกะเหลิบที่สะดวก คือเริ่มจากถนนยโสธร -อำนาจเจริญ กิโลเมตรที่ 14 (บ้านคำเกิด สังเกตจะมีแตงโมขายตามข้างทาง) เลี้ยวซ้ายเข้าสู่บ้านหนองหงอก ไปบ้านหนองบก -บ้านโนนสวาท ก็จะถึงกุดกะเหลิบ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร
ยโสธร
1 ฐานเรียนรู้ด้านการเกษตร ศพก.บ้านนาน้ำซำ จำนวน 10 ฐาน ดังนี้ 1) ฐานเรียนรู้การผลิตสารชีวภัณฑ์ (ไตรโคเดอร์มา, บิวเวอร์เรีย, BT, จุลินทรีย์ป่า , ไส้เดือนฝอย) 2) ฐานเรียนรู้การเผาถ่าน/กลั่นน้ำส้มควันไม้ 3) ฐานการเลี้ยงไก่ไข่พื้นเมือง 4) ฐานการเพาะเห็ด 5) ฐานการปลูกหน่อไม้ฝรั่งอินทรีย์ 6) ฐานการเลี้ยงปลาน้ำจืด 7) ฐานการทำปุ๋ยหมักไม่กลับกอง 8) ฐานการกลั่นสมุนไพร 2 ศึกษาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ 1) ถ้ำผาน้ำทิพย์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ 2) ถ้ำค้างคาว พบกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของค้างคาวนับล้านตัว 3) ถ้ำชมพู 4) วัดเขาสามยอด 5) น้ำตกตาดฟ้า 6) น้ำผุดตาดเต่า 7) ถ้ำภูตาหลอ 8) จุดชมวิวดงสะคร่าน 9) โครงการพัฒนาป่าดงลาน 3 แหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตร 1) การปลูกหน่อไม้ฝรั่ง 2) การปลูกและการขยายพันธุ์ฝรั่ง 3) สวนลำไยสร้างรายได้ 4) การเพาะเห็ดเสริมรายได้ โปรแกรมการท่องเที่ยว โปรแกรม 2 วัน 1 คืน เรียนรู้ด้านการเกษตรที่ ศพก.  1-2 ฐาน > รับประทานอาหารกลางวัน > ชมถ้ำผาน้ำทิพย์ > ชมค้างคาว > รับประทานอาหารเย็น > พักผ่อนบ้านพักโฮมสเตย์/ภูผาม่านแคมป์ > แปลงหน่อไม้ฝรั่ง> สวนกล้วยหอมทอง > วัดเขาสามยอด > รับประทานอาหารกลางวัน > เดินทางกลับ หมายเหตุ  – โปรแกรมการท่องเที่ยวและค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม - อาหารว่าง 3 มื้อ โปรแกรม 1 วัน เรียนรู้ด้านการเกษตรที่ ศพก.  1-2 ฐาน > รับประทานอาหารกลางวัน > ชมถ้ำผาน้ำทิพย์ > ชมค้างคาว > เดินทางกลับ หมายเหตุ  – โปรแกรมการท่องเที่ยวและค่าบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม - อาหารว่าง 2 มื้อ เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) 1) ถ้ำผาน้ำทิพย์ แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์จากธรรมชาติ ระยะทาง 3 กม. 2) ถ้ำค้างคาว  ระยะทาง 6 กม. 3) ถ้ำชมพู ระยะทาง 4 กม. 4) วัดเขาสามยอด ระยะทาง 6 กม. 5) น้ำตกตาดฟ้า ระยะทาง 18 กม. 6) น้ำผุดตาดเต่า ระยะทาง 12 กม. 7) ถ้ำภูตาหลอ ระยะทาง 16 กม. 8) จุดชมวิวดงสะคร่าน ระยะทาง 18 กม. 9) โครงการพัฒนาป่าดงลาน ระยะทาง 22 กม. สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน 1 ร้านค้าชุมชนบ้านเซินใต้ หมู่ 3  บ้านเซินใต้ ตำบลโนนคอม จำหน่ายเสื้อผ้าพื้นเมืองภูผาม่าน 2 ร้านค้าชุมชนบ้านโนนคอม หมู่ 1 บ้านโนนคอม ตำบลโนนคอม จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและของฝาก
ขอนแก่น
สวนโบราณ 200 ปี เป็นสวนที่มีการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในระยะยาว เพื่อคนจำนวนมากที่สุด สวน 200 ปี ตั้งอยู่เลขที่ 5 หมู่ที่ 11 ตำบลแหลมทราย อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร ห่างจากตลาดหลังสวนราว 2 กิโลเมตร ผู้ที่ดูแลสวนอยู่ในปัจจุบันคือ คุณลุงสำเริง รัชเวทย์ ทายาทช่วงที่ 4 ของตระกูล สวน 200 ปี เป็นสวนเบญจพรรณ คือปลูกไม้ผลหลายๆ ชนิดรวมกัน โดยไม่ได้แบ่งเขต แบ่งโซน ชนิดของไม้ผลมีทุเรียนพื้นบ้าน มังคุด เงาะพื้นบ้าน ลางสาด หมาก มะพร้าว จันทน์เทศ สะตอ ลูกเนียง ละมุด จำปา ขนุน มะไฟ กล้วย ไผ่ พืชผักสวนครัว สมุนไพรต่างๆ สำหรับการบำรุงรักษา อาศัยธรรมชาติเป็นหลัก ปราศจากการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งการเจริญเติบโต การบำรุงดินทำโดยเลี้ยงหญ้าบำรุงดิน ช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นตลอดปี ส่วนปุ๋ยเป็นปุ๋ยจากธรรมชาติ เป็นวัฏจักรหมุนเวียน เช่น ใบไม้ และซากพืชล้มลุกที่ทับถมตลอดปี ส่วนการป้องกันกำจัดศัตรูพืช มีนก กระรอก กระแต คอยจับกินหนอน แมลง เป็นอาหาร ต้นทุนในการดูแลสวน แยกออกได้เป็นส่วนๆ คือ เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ต้องจ้างแรงงานถางหญ้าบ้าง โดยเฉพาะโคนต้นเพื่อให้การเก็บเกี่ยวได้สะดวก ส่วนต่อมาคือถางบริเวณที่จะปลูกต้นไม้ซ่อมแซมลงไป
ชุมพร