คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ตลาดน้ำวัดใหม่กรงทอง
39 ถนนปราจีนอนุสรณ์ ตำบลศรีมหาโพธิ อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี 25140
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 08:00 น. - 18:00 น.
• วันเสาร์
: 08:00 น. - 18:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
ตลาดน้ำวัดใหม่กรงทอง ตั้งอยู่ที่ตลาดท่าประชุม ต.ศรีมหาโพธิ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ริมฝั่งแม่น้ำปราจีนบุรี เดิมทีเป็นที่อาศัยอยู่ของปลาประจำถิ่นอยู่กันเป็นจำนวนมาก คณะกรรมการวัดเล็งเห็นว่าน่าจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ จึงได้สนับสนุนจัดซื้อพันธุ์ปลามาเพาะ และปล่อยลงสู่แหล่งน้ำบริเวณหน้าวัดใหม่กรงทอง พร้อมทั้งจัดให้มีตู้อาหารปลาให้กับนักท่องเที่ยว จึงทำให้วัดใหม่กรงทองเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนในละแวกนี้ และใกล้เคียง ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่ได้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ทำทานและเพลิดเพลินกับการให้อาหารปลา พร้อมทั้งชื่นชมวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำของชาวบ้านในพื้นที่ทั้งชาวไทยเชื้อสายลาวพวน จีน ชาวไทยเชื้อสายเขมร จึงเกิดการรวมตัวของแม่ค้าพ่อค้าในพื้นที่ ในการนำอาหารพื้นบ้าน สินค้าท้องถิ่นมาขายตลาดน้ำวัดใหม่กรงทอง และได้รับการส่งเสริมสนับสนุนจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น ตลาดประชารัฐต้องชม เชื่อมโยงการท่องเที่ยวก่อให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับชุมชนทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน

ตลาดน้ำวัดใหม่กรงทอง ยังเป็นแหล่งเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ อาทิ เป็นท่าเรือ – ย่านชุมชนการค้าในท้องถิ่น ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ ชาวไทยเชื้อสายลาวพวน จีน ชาวไทยเชื้อสายเขมร จนเป็นที่มาของ ตลาดท่าประชุม และเคยเป็นท่าเทียบเรือในอดีตที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสต้นแม่น้ำปราจีนบุรีขึ้นที่น้ำนี้ ก่อนเสด็จประพาสดงพระศรมหาโพธิ์ และทรงลงพรปรมาภิไธยย่อ จปร.รศ.127 ที่อนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์ในปัจจุบัน
ที่มาข้อมูล
กรมการค้าภายใน
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: มีค่าใช้จ่าย
  - ต่างชาติ ผู้ใหญ่
:
  - ต่างชาติ เด็ก
:
  - ไทย ผู้ใหญ่
:
  - ไทย เด็ก
:
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
ฟาร์มเมล่อนคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจทุกการผลิต ด้านในประกอบด้วย ร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึก สวนเมล่อน ครบวงจรในที่เดียว
สระบุรี
สวนผักครูสรรเสริญ แหล่งผลิตผักปลอดสารพิษบนเนื้อที่ 47 ไร่ เป็นต้นแบบและแหล่งเรียนรู้ศึกษาดูงานของเกษตรกรในพื้นที่ และผู้ศึกษาดูงานทั่วไปเป็นอย่างดี ซึ่งได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดสระบุรี ในการส่งเสริมการผลิตผักปลอดภัย และการรวมกลุ่มเชื่อมโยงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชื่อมโยงตลาดเกษตรกร
สระบุรี
- บึงมหัศจรรย์น้ำดันทรายดูด - ป่าต้นน้ำ น้ำผุด - ดอกไม้สีดำ - ถ้ำน้ำลอด - ถ้ำประวัติศาสตร์สมรภูมิ - น้ำตกธารพฤกษาหรือน้ำตกบางคุย
สุราษฎร์ธานี
กิจกรรมให้ลูกค้าได้เที่ยวมี 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้ - คาเฟ่มีสุข มีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ เมนูแนะนำคือ "กฤษณากาแฟ" ที่เราใช้ส่วนผสมจากกฤษณาสกัดมาเป็นหัวใจในเครื่องดื่มนี้ นอกจากความหอมเฉพาะตัวแล้วยังเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าสรรพคุณต่างๆมากมาย มีอาหารถิ่นที่สร้างสรรค์ขึ้นจากชุมชนเพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงวิถีชีวิตท้องถิ่นดั้งเดิมของมีสุขฟาร์ม สัมผัสบรรยากาศของป่ากฤษณาที่มีอายุกว่า30ปี เป็นป่าผสมผสานที่ได้รับรางวัลเกษตรกรแห่งชาติ บนพื้นที่กว่า200ไร่ เติมพลังแห่งความสุขกับธรรมชาติที่หาไม่ได้ทั่วไป - ถ่ายรูปสวยๆ เช็คอินในมีสุขฟาร์ม - ข้ามสะพานมีสุขเพื่อทิ้งความทุกข์และเก็บความสุขกลับไป - ให้อาหารน้องปลาบึก - ให้อาหารน้องหมูป่า - ชมน้องแพะและน้องกระบือภายในฟาร์ม - ภายเรือคายัก ในทะเลสาบมีสุข
ระยอง
สวนหอมมีสุข วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรผลิตไม้กฤษณา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตไม้กฤษณาสายพันธุ์ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
ระยอง
แหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรอินทรีย์ มีทั้งที่พัก กิจกรรม คอร์สเรียนรู้ทางด้านการเกษตรและอาหารเป็นยา
เชียงราย
พิกัด https://goo.gl/maps/5VAeHUFWAcovFCuYA
สระบุรี
ที่นี่ บ้านนาสวนสามขา อำเภอสันติสุข สัมผัสวิถีเนิบช้ากับยามเช้าอันแสนสงบ เที่ยวชมท้องทุ่งสีเขียวอ่อน ในหน้าฝน สูดดิน กลิ่นโคลน สุดสดชื่นระรื่นตา กับบรรยากาศชายทุ่งเดินเล่นทอดน่องพักผ่อนสบายๆ กินอยู่ง่ายๆ เก็บพืชผักสวนครัวในบ้าน นำมาปรุงอาหาร เป็นเมนูในท้องถิ่น แค่นี้ก็อิ่มอร่อยมีเวลาเหลือๆ ลงแปลงเพาะกล้า ทำนาโยน เรียนรู้การเกษตรวิถีใหม่ บางคนไม่ใช่เกษตรกรโดยตรง ไม่เคยดำนา มาท่องเที่ยว อยากเดินย่ำโคลนโยนข้าว สัมผัสสายลม และท้องทุ่งขนต้นกล้าที่เพาะไว้ไปแปลงนา เดินป่าๆ โยนๆ แบบซิวๆ ไม่ต้องก้มให้เมื่อย ยิ่งแดดร่ม ลมตกแบบนี้สบายๆ
น่าน
“คุ้งบางกะเจ้า” คือ พื้นที่ส่วนหนึ่งที่เป็นบริเวณโค้งน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกระเพาะหมู ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 6 ตำบลของ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ได้แก่ ตำบลบางกะเจ้า ตำบลบางน้ำผึ้ง ตำบลบางกอบัว ตำบลบางกระสอบ ตำบลบางยอ และ ตำบลทรงคะนอง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 12,000 ไร่ เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2520 ได้มีมติคณะรัฐมนตรี กำหนดให้ “คุ้งบางกะเจ้า” เป็นพื้นที่สีเขียว เหมาะแก่การเพาะปลูก โดยไม่อนุญาตให้ทำการก่อสร้างตึกหรืออาคาร ที่มีความสูงเกินกว่าที่กำหนด และเมื่อปี 2549 นิตยสาร Time ได้ยกให้พื้นที่บางกระเจ้าเป็น The best Urban Oasis of Asia หรือที่เรียกว่า เป็นปอดกลางเมืองที่ดีที่สุดในเอเชียนั่นเอง แม้ระยะเวลาจะผ่านมาหลายสิบปี สถานที่แห่งนี้ยังถือว่าเป็น “ปอด” ฟอกอากาศให้กรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ ได้อย่างดีเสมอมา กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ “คุ้งบางกะเจ้า” จะเป็นการปั่นจักรยานลัดเลาะ ไปเรื่อยๆ ในพื้นที่สีเขียวที่กำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางปั่นจักรยานยอดฮิต เพราะเป็นเหมือนโอเอซิสผลิตออกซิเจนให้คนเมืองด้วยพื้นที่สวนกว่า 200 ไร่ ร่มรื่นเย็นชื้นเพราะมีต้นไม้นานาพันธุ์ มีไม้ใหญ่และ รากไทรปกคลุม บางพื้นที่มีอุโมงค์ต้นไม้ที่ตระการตา มีวิถีชีวิตเกษตรกรรม ที่น่าสนใจ และภูมิปัญญาชาวบ้านที่น่าค้นหา โดยมีจุดแวะชม และทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่มเกษตรกร และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โปรแกรมการท่องเที่ยว 1. เยี่ยมชมสวนมะม่วงน้ำดอกไม้ (มะม่วงน้ำดอกไม้คุ้งบางกะเจ้า มะม่วง GI ล่าสุดของไทย) โดย พ.ท.ชำนาญ อ่อนแย้ม ประธานชมรมผู้ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้จังหวัดสมุทรปราการ ประธานวิสาหกิจชุมชน ผู้พันการเกษตร และเจ้าของสวนมะม่วงน้ำดอกไม้ในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า เป็นวิทยากรให้ความรู้ พร้อมจำหน่ายมะม่วง และกิ่งพันธุ์มะม่วง 2. เยี่ยมสวนไม้ประดับ (โกสน หมากแดง และหมากผู้หมากเมีย) โดย อาจารย์ณรงค์ สำลีรัตน์ ประธานศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรอำเภอพระประแดง กิจกรรมขยายพันธุ์ไม้ประดับ และอาจารย์สมศักดิ์ สำลีรัตน์ ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน เป็นวิทยากรให้ความรู้ พร้อมจำหน่าย โกสน หมากแดง และหมากผู้หมากเมีย 3. ชมสวนเกษตรผสมผสานครบวงจร ของคุณสมนึก ฟักเจริญ Smart Farmer ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ 4. วิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตร์เพื่อสุขภาพ กิจกรรมประกอบด้วย บริการนวดด้วยลูกประคบสมุนไพร สาธิตการทำลูกประคบสมุนไพร จำหน่ายหมอนรองคอ, เข็มขัดธัญพืช, ลูกประคบ, หมอนคลุมไหล่ และหมอนกดจุด 5. วิสาหกิจชุมชนบ้านธูปหอมสมุนไพร กิจกรรมทำธูปหอมสมุนไพร ทำผ้ามัดย้อม บริการโฮมสเตย์ เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ (พร้อมระยะทาง/กม.) (ทุกสถานที่อยู่ภายในคุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ)  - ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ตำบลบางน้ำผึ้ง  - สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ตำบลบางกะเจ้า  - พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย ตำบลบางกะเจ้า  - หอดูนก ตำบลบางกะเจ้า  - พิพิธภัณฑ์เรือ ตำบลบางกอบัว  - โกดังผักบางกะเจ้า สินค้าวิสาหกิจชุมชนในชุมชน - วิสาหกิจชุมชนหัตถศาสตร์เพื่อสุขภาพ  จำหน่ายหมอนรองคอ, เข็มขัดธัญพืช, ลูกประคบ, หมอนคลุมไหล่, หมอนกดจุด                                  - วิสาหกิจชุมชนบ้านธูปหอมสมุนไพร จำหน่ายธูปหอม, ผ้ามัดย้อม (กระเป๋า, เสื้อผ้า, ผ้าพันคอ)                       - น้ำตาลมะพร้าว                                                   - ไม้ประดับ เช่น โกสน, หมากแดง, หมากผู้หมากเมีย, อะโกนีม่า ฯลฯ  - ไม้ผล ได้แก่ มะม่วง, กิ่งพันธุ์มะม่วง, มะนาว, กิ่งพันธุ์มะนาว ฯลฯ                 - งานศิลปหัตถกรรมจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน  เช่น ไม้มงคลจากหินนำโชค, ดอกไม้จากเกล็ดปลา, ดอกไม้จากผ้าใยบัว
สมุทรปราการ
เป็นสวนผลไม้ที่มีความสวยงามในสภาพพื้นที่ ความร่มรื่น ความเป็นเอกลักษณ์ในรสชาติของผลไม้ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ที่เจ้าของสวนเน้นย้ำเป็นหนักหนาว่าที่นี่แหละผลไม้คุณภาพ กินได้ทุกลูก เรียกว่าปลอดภัยในระดับ GAP โดยนำระบบการทำการเกษตรที่ดีมีคุณภาพ เข้ามาใช้ในการผลิต ซึ่งระบบ GAP นี้เองช่วยให้ผลผลิตมีคุณภาพมากขึ้น และปลอดภัยต่อผู้บริโภครวมทั้งตัวเกษตรกรเอง เพราะระบบ GAP มีการควบคุมการใช้สารเคมีให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพราะฉะนั้นผู้บริโภคหรือนักท่องเที่ยวสบายใจได้ว่าปลอดภัยหายห่วง
ระยอง
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก การมาเที่ยวชมศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่ว่ามากันเป็นหมู่คณะ และต้องการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางศูนย์ฯ ได้จัดขึ้น ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นเลิศ ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวของคำว่า "พอเพียง" และการใช้ทรัพยากรอย่างไรให้ได้ประโยชน์และรู้คุณค่ามากที่สุด การเดินเที่ยวชมที่แห่งนี้ เดินชมได้เป็นลักษณะคล้ายวงกลม โดยเริ่มจาก โซนภาคเหนือ ตื่นตาไปกับการปลูกไม้ไผ่ชนิดต่างๆ สองข้างทาง รวมทั้งความน่ารักของสะพานไม้ไผ่ บ้านที่สร้างจากไม้ไผ่ริมสระบัว และเครื่องเล่นที่ทำจากไม้ไผ่ ที่จัดแสดงแบบนี้ เป็นเพราะต้องการให้ได้รู้ว่าไม้ไผ่สามารถทำประโยชน์อะไรได้มากมาย รวมทั้งทำรางหยดน้ำ เพื่อใช้รดน้ำต้นไม้และรดดินแทนคนอีกด้วย เดินขึ้นไปตามภูเขาก้อนเล็กๆ เรียนรู้เรื่องภูเขาป่า การตะบันน้ำ คือ การที่ใช้น้ำอัดน้ำขึ้นที่สูงแทนการใช้เครื่องปั๊มน้ำ ระบบป่าเปียกกันไฟ ประโยชน์ของหญ้าแฝก และการทำฝายชะลอความชุ่มชื้น เดินต่อไปยัง โซนภาคกลาง เรียนรู้เรื่องการเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของตัวเองอย่างคุ้มค่า เรียนรู้การสร้างบ้านดิน และเรื่องสมุนไพรนานาชนิด แล้วก็เดินไปยัง โซนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ชมธนาคารข้าว เรียนรู้เรื่องการสีข้าว การเลี้ยงปศุสัตว์ แอบเห็นวัวตัวเบ่อเริ่มอยู่ในคอกด้วย การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง จะได้ไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมี และได้เรียนรู้เรื่องการห่มดิน จากที่พื้นที่ที่ไม่มีดิน ต้องใช้วิธีห่มดิน เพื่อให้ได้ดินดีๆ กลับมาปลูกพืชผัก แต่จะทำอย่างไร อยากให้ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองจะดีที่สุด สุดท้ายไปยัง โซนภาคใต้ ไปดูการเผาถ่านที่ทำจากไม้ไผ่ การทำน้ำมันไบโอดีเซล และเรียนรู้โครงการแก้มลิง นอกจากนี้ตลอดภายในศูนย์ฯ ฉันเห็นว่าจะมีร่องน้ำขนาดใหญ่และเล็กตลอดเส้นทาง มีสระน้ำ มีแปลงเกษตรปลูกพืชผัก มีกังหันน้ำชัยพัฒนา มีการปลูกหญ้าแฝกในน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย จบการเดินเที่ยวชม ที่รับสาระความรู้และความเพลิดเพลินเดินอย่างไม่รู้เหนื่อยกันไป เดินชม ตาดู หูฟังและปากถามเจ้าหน้าที่ไม่ลดละ เพียงเพราะว่าสิ่งที่เราคิดว่า ‘เรารู้' กลายเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน นั่นเป็นเพราะความเคยชินกับโครงการต่างๆ หรือทฤษฎีต่างๆ แต่ไม่เคยปฏิบัติหรือมาสัมผัสจริง การเดินทาง : จากแยกรังสิต ไปทาง อ.องครักษ์ มุ่งหน้าไปใช้เส้นนครนายก-น้ำตกนางรอง ผ่านวังตะไคร้ ก่อนถึงน้ำตกนางรอง 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงวงเวียน (มีรูปปั้นช้าง) วนขวาข้ามสะพาน ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาตรงไปอีก 200 เมตร ศูนย์ฯ จะอยู่ทางซ้ายมือ
นครนายก