คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ตลาดต้นตาล
381/58 หมู่17 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40000
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 16:00 น. - 23:00 น.
• วันจันทร์
: 16:00 น. - 23:00 น.
• วันอังคาร
: 16:00 น. - 23:00 น.
• วันพุธ
: 16:00 น. - 23:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 16:00 น. - 23:00 น.
• วันศุกร์
: 16:00 น. - 23:00 น.
• วันเสาร์
: 16:00 น. - 23:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
ตลาดต้นตาล (Ton Tann Green Market) ตั้งอยู่ในตัวเมือง จ.ขอนแก่น เป็นศูนย์รวม ชิ้นงานศิลปะ ของสะสม สิ่งประดิษฐ์ หรือ ของที่คอเดียวกันชื่นชอบ กลุ่มเล่านิทาน กลุ่มละคร กลุ่มเต้นรำ กลุ่มถ่ายภาพ กลุ่มนักแสดงเปิดหมวก กลุ่มรถคลาสสิค บิ๊กไบค์ ฯลฯ มาโชว์ มาอวด แลกเปลี่ยนผลงานแบบคนใจเดียวกัน พบกับสินค้าเปิดท้าย ประมาณ 400 ร้านค้า บริเวณภายในอาคาร ประกอบด้วย ร้านค้ากลุ่มแฟชั่นเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องประดับต่างๆ หลากหลายมากมายให้ช้อป มีที่นั่งพักหรือจะหาของอร่อยๆทานก็มีให้เลือกชิมกันหลายอย่างในราคาที่แสนประหยัด บรรยากาศไม่ซ้ำใคร ด้วยเมนูเด็ดๆ จากร้านค้าที่ถูกคัดสรรมาโดยเฉพาะ มีให้เลือกมากถึง 60 ร้านค้า พร้อมกับดนตรีแสดงสดทุกเย็นทุกวัน บรรยากาศสวน ร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น โฟล์คซอง เต้นบีบอย และอื่นๆ พื้นที่พักผ่อน และ สนามเด็กเล่น ถูกออกแบบไว้สำหรับครอบครัวทุกกลุ่ม ทุกวัย ร่มรื่นด้วยแมกไม้มากมายกว่า 40 ไร่ สะดวกสบายกับพื้นที่จอดรถมากกว่า 1,500 คันเข้าง่าย ออกง่าย ติดถนนมิตรภาพ อ.เมืองขอนแก่น
ที่มาข้อมูล
กรมการค้าภายใน
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: มีค่าใช้จ่าย
  - ต่างชาติ ผู้ใหญ่
:
  - ต่างชาติ เด็ก
:
  - ไทย ผู้ใหญ่
:
  - ไทย เด็ก
:
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
เที่ยวชมสวน บรรยากาศร่มรื่น ชิมผลไม้สดจากสวน จำหน่ายผลไม้คุณภาพ
ระยอง
พบกับร้าน WISDOM CAFÉ แวะจิบกาแฟ ชิลล์ ชิลล์ เพิ่มความสดชื่นท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่ง แชะ แชร์ ถ่ายภาพกับมุมโปรดสุดประทับใจบนสะพานไม้ไผ่ ชมความน่ารักของสัตว์ในวิถีเกษตร สัมผัสเสน่ห์ของวิถีเกษตรไทย สะท้อนวิถีชีวิต ความเชื่อ และประเพณี กับโซนบ้านเรือนไทย 4 ภาค ตื่นตา ตื่นใจ ชมเรือขุด รข.1 เรือขุดในสมัยรัชกาลที่ 5
ปทุมธานี
ชาวบ้านบ้านนาต้นจั่น มีวิถีชีวิตดั้งเดิม มีการทำเกษตรแบบผสมผสาน มีการทำผ้าหมักโคลนเป็นผ้าดีมีน้ำหนัก งดงามด้วยการหมักโคลนและการทอที่ซับซ้อน ชาวบ้านได้ปรับพื้นที่สำหรับกางเต็นท์ ยกแคร่ไม่ไผ่ทำเป็นที่นั่งกินข้าว ทำห้องน้ำ ส่วนที่เหลือยังคงสภาพป่าไว้ดังเดิม สันดอยแห่งนี้มีทัศนียภาพงดงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ในจุดเดียวกัน โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นมีประมาณ 23 หลัง แยกบ้านให้อยู่เป็น หลังหรืออยู่บ้านเดียวกับเจ้าของบ้าน ได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบ ที่พัก พร้อมห้องครัวอุปกรณ์ครบครัน ซื้ออาหาร ไปทำรับประทานเองสะดวกสบาย มีกิจกรรมปั่นจักรยานชมวิถีชมุชนในหมู่บ้าน ชมสวนผลไม้และท้องทุ่งพร้อมไกด์ชุมชนนำทาง ไปชมสวนผลไม้ของชาวบ้าน โปรแกรมการท่องเที่ยว : -พักโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมดจำนวน 23 หลัง -ปั่นจักรยานชมวิถีชมุชนในหมู่บ้าน ชมสวนผลไม้และท้องทุ่ง -ชมวิธีการทำผ้าหมักโคลน การทอผ้าด้วยมือ ผ้ายกดอก และเลือกซื้อผ้าหมักโคลนตัดสำเร็จรูป -ชมวิธีการทำตุ๊กตาบาร์โหน (บ้านตาวงศ์) -ชมหัตถกรรมตอไม้ -ชมและชิมผลไม้ตามฤดูกาล ได้แก่ ทุเรียน เงาะ ลองกอง มะม่วง มะปราง มะไฟ ลำไย -จุดชมวิว “ห้วยต้นไฮ” ชมทะเลหมอกพระอาทิตย์ -ชมและทดลองการทำข้าวเปิ๊ป อาหารท้องถิ่น จิบกาแฟในกระบอกไม้ไผ่ เส้นทางเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ : - อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย 30 กิโลเมตร - ร้านทองโบราณ ร้านเงินโบราณ 30 กิโลเมตร - อุทยานแห่งชาติน้ำตกป่าคา 70 กิโลเมตร - อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (เมืองเก่าสุโขทัย) 77 กิโลเมตร - อุทยานแห่งชาติรามคำแหง 110 กิโลเมตร
สุโขทัย
อำเภอเมืองจันทร์เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการปลูกส้มโอ ดินส่วนใหญ่เป็นดินที่เกิดจากตะกอนลำน้ำ เนื้อดินค่อนข้างเป็นทราย มีปฏิกิริยาดินเป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นกลาง การระบายน้ำดีถึงดีปานกลาง ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง มีความลาดชันเล็กน้อย และเป็นพื้นที่มีระดับน้ำใต้ดินตื้น คุณภาพน้ำใต้ดินดี สามารถนำมาใช้ประโยชน์ด้านการเกษตรได้ดี ไม่มีปัญหาน้ำกระด้าง ทำให้ส้มโอของอำเภอเมืองจันทร์มีคุณภาพและรสชาติดี ไม่มีรสขม เปลือกอ่อนบาง ไม่กระด้าง รสหวานฉ่ำ อร่อย เนื้อไม่แฉะ และปลอดภัยจากสารพิษ
ศรีสะเกษ
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ยังคงมีความเป็นธรรมชาติ และบริสุทธิ์ อบอุ่นไปด้วยวิถีชีวิตที่งดงามของชาวเขา ในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ซึ่งป็นฤดูทำนาข้าว นักท่องเที่ยวจะได้ชม
แม่ฮ่องสอน
คุณลือศักดิ์ เป็นเจ้าของศูนย์ฝึกลิงกะแดะแจะ ได้เรียนวิธีการสอนลิงกังมาจากคุณพ่อซึ่งเป็นครูฝึกลิง ทุกเช้าคุณลือศักดิ์จะนำลิงกังไปยังสวนมะพร้าว สอน มันให้ปีนขึ้นต้นมะพร้าว เลือกลูกมะพร้าวสุก และปลิดมะพร้าวออกจากต้น นอกจากนี้แล้ว คุณยังสามารถค้างคืนที่บ้านคุณลือศักดิ์ได้ในราคาไม่แพง ศูนย์ฝึกลิงกระแดะแจะนำลิงกังตัวผู้มาสอนเก็บมะพร้าว ลิงสามารถเก็บมะพร้าวได้ วันละ 500-1000 ลูกต่อวัน
สุราษฎร์ธานี
การส่งเสริมและสนับสนุนอาชีพทางการเกษตรของตำบลสาคู และสืบสานดำเนินงานตามแนวพระราชดำริโครงการเศรษฐกิจพอเพียง
ภูเก็ต
บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยเท้าพ่อเป็นฐานการเรียนรู้เกี่ยวกับเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายในบ้านเป็นสวนผสม ปลูกพืชผักเพื่อบริโภคในครอบครัว โดยยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต และครูยังเป็นต้นแบบในการปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ในถังพลาสติก จำนวน 400 ถัง และเมื่อเก็บเกี่ยวแล้วจะได้ข้าวเปลือกประมาณกว่า 20 ถัง ซึ่งเพียงพอสำหรับการบริโภคภายในครอบครัวได้ทั้งปี ต่อมาได้มีชาวบ้าน และชาวต่างชาติรู้ข่าวจึงได้มาดู และขอดูถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก และได้เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการทำการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงให้กับนักเรียนนักศึกษาและผู้ที่สนใจอีกด้วย
ชุมพร
การทำเกษตรตามแนวพระราชดำริ การเกษตรพอเพียงเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า และเป็นจุดแหล่งท่องเที่ยวทางการเกษตรทฤษดีใหม่
แพร่
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก การมาเที่ยวชมศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่ว่ามากันเป็นหมู่คณะ และต้องการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางศูนย์ฯ ได้จัดขึ้น ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นเลิศ ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวของคำว่า "พอเพียง" และการใช้ทรัพยากรอย่างไรให้ได้ประโยชน์และรู้คุณค่ามากที่สุด การเดินเที่ยวชมที่แห่งนี้ เดินชมได้เป็นลักษณะคล้ายวงกลม โดยเริ่มจาก โซนภาคเหนือ ตื่นตาไปกับการปลูกไม้ไผ่ชนิดต่างๆ สองข้างทาง รวมทั้งความน่ารักของสะพานไม้ไผ่ บ้านที่สร้างจากไม้ไผ่ริมสระบัว และเครื่องเล่นที่ทำจากไม้ไผ่ ที่จัดแสดงแบบนี้ เป็นเพราะต้องการให้ได้รู้ว่าไม้ไผ่สามารถทำประโยชน์อะไรได้มากมาย รวมทั้งทำรางหยดน้ำ เพื่อใช้รดน้ำต้นไม้และรดดินแทนคนอีกด้วย เดินขึ้นไปตามภูเขาก้อนเล็กๆ เรียนรู้เรื่องภูเขาป่า การตะบันน้ำ คือ การที่ใช้น้ำอัดน้ำขึ้นที่สูงแทนการใช้เครื่องปั๊มน้ำ ระบบป่าเปียกกันไฟ ประโยชน์ของหญ้าแฝก และการทำฝายชะลอความชุ่มชื้น เดินต่อไปยัง โซนภาคกลาง เรียนรู้เรื่องการเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของตัวเองอย่างคุ้มค่า เรียนรู้การสร้างบ้านดิน และเรื่องสมุนไพรนานาชนิด แล้วก็เดินไปยัง โซนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ชมธนาคารข้าว เรียนรู้เรื่องการสีข้าว การเลี้ยงปศุสัตว์ แอบเห็นวัวตัวเบ่อเริ่มอยู่ในคอกด้วย การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง จะได้ไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมี และได้เรียนรู้เรื่องการห่มดิน จากที่พื้นที่ที่ไม่มีดิน ต้องใช้วิธีห่มดิน เพื่อให้ได้ดินดีๆ กลับมาปลูกพืชผัก แต่จะทำอย่างไร อยากให้ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองจะดีที่สุด สุดท้ายไปยัง โซนภาคใต้ ไปดูการเผาถ่านที่ทำจากไม้ไผ่ การทำน้ำมันไบโอดีเซล และเรียนรู้โครงการแก้มลิง นอกจากนี้ตลอดภายในศูนย์ฯ ฉันเห็นว่าจะมีร่องน้ำขนาดใหญ่และเล็กตลอดเส้นทาง มีสระน้ำ มีแปลงเกษตรปลูกพืชผัก มีกังหันน้ำชัยพัฒนา มีการปลูกหญ้าแฝกในน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย จบการเดินเที่ยวชม ที่รับสาระความรู้และความเพลิดเพลินเดินอย่างไม่รู้เหนื่อยกันไป เดินชม ตาดู หูฟังและปากถามเจ้าหน้าที่ไม่ลดละ เพียงเพราะว่าสิ่งที่เราคิดว่า ‘เรารู้' กลายเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน นั่นเป็นเพราะความเคยชินกับโครงการต่างๆ หรือทฤษฎีต่างๆ แต่ไม่เคยปฏิบัติหรือมาสัมผัสจริง การเดินทาง : จากแยกรังสิต ไปทาง อ.องครักษ์ มุ่งหน้าไปใช้เส้นนครนายก-น้ำตกนางรอง ผ่านวังตะไคร้ ก่อนถึงน้ำตกนางรอง 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงวงเวียน (มีรูปปั้นช้าง) วนขวาข้ามสะพาน ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาตรงไปอีก 200 เมตร ศูนย์ฯ จะอยู่ทางซ้ายมือ
นครนายก
ภูเกษตร เป็นภูเขาสูง ลานหินกว้าง น้ำตกตาดฮังในฤดูฝน มีหินเป็นรูปร่างต่าง ๆ มากมายเกิดจากธรรมชาติ และมีหน้าผาสูงชัน เป็นที่ตั้งวัดภูเกษตร (ดานหินหัวนาค)
อำนาจเจริญ
“สีเขียว” มักเยียวยาหัวใจให้สดชื่น ช่วยให้สบายตา สบายใจ ยิ่งในช่วงอากาศเย็น ๆ ของฤดูฝน “นาขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ” อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน อีกปลายทางที่ไม่ควรพลาดวิวท้องนาข้าวสีเขียว ที่ปกคลุมทั้งเขาน้อยใหญ่ เป็นภาพทิวทัศน์ที่คุ้มค่าแก่การมาถึง จากทุ่งนาข้าว พักจิบกาแฟเคล้าวิวหมอก กับกาแฟเจี๊ยงลั๊วะ กาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีแห่งหนึ่งของ จ.น่าน ก่อนมุ่งหน้า สู่อุทยานแห่งชาติขุนน่าน ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณไม้ที่สวยงามในหน้าฝน
น่าน