รายละเอียด
เริ่มจากเครือข่ายวิสาหกิจข้าวสัจธรรมอำนาจเจริญรวมตัวกันโดยกลุ่มเกษตรกรที่เข้มแข็ง เมื่อผลิตข้าวอินทรีย์ได้แล้ว ที่ดิน ที่นา กลายเป็นต้นทุนสะอาดที่สำคัญ พืชผลทางการเกษตรอื่นๆ จึงเป็นผลผลิตอินทรีย์ ปลูกได้แล้วต้องมีสถานที่จำหน่ายที่เหมาะสมได้ราคาเป็นธรรม อีกทั้งชาวอำนาจเจริญควรได้บริโภคสินค้าที่ปลอดภัย เสมือนวัคซีนป้องกันโรค สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญจึงร่วมกับเทศบาลเมืองอำนาจเจริญและกลุ่มผู้ผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์รวมถึงกลุ่มข้าวสัจธรรม เปิด "ตลาดนัดสีเขียว" ณ บริเวณหอนาฬิกา ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2556 เป็นต้นมา เกษตรกรที่จะนำสินค้ามาจำหน่ายต้องได้รับรองพื้นที่อินทรีย์จากสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ (มกท.) และมาตรฐานอื่นๆ ตลาดเขียวได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิก 20 ราย ต่อมาเดือนตุลาคม 2557 หน่วยงานกระทรวงเกษตรโดย ได้บูรณาการจัด "ตลาดนัดเกษตรกร" ให้เกษตรกรที่ผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัย หรือ GAP มีสถานที่จำหน่ายพืชผลของตนเอง มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก เพื่อสร้างรายได้ ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิก 10 ราย
ต่อมาเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2559 จังหวัดอำนาจเจริญ ก่อตั้งโครงการผูกปิ่นโตข้าวอำนาจเจริญ เพราะเราเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์มีความเข้มแข็ง จากดำริของผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ "ข้าวของชาวนาอำนาจเจริญ ต้องมีเจ้าของ อยากซื้อต้องสั่งจอง" โครงการจึงเกิดขึ้นโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวนาจะเป็นผู้กำหนดราคาผลผลิตของตนเอง ลดการพึ่งพาภาครัฐ พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน สอดคล้องเพื่อการบรรลุวิสัยทัศน์ "เมืองธรรมเกษตร เขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง เส้นทางการค้าสู่สากล" โครงการนี้ประกอบด้วยผู้เกี่ยวข้อง 3 ฝ่าย ได้แก่ เจ้าบ่าว คือ ชาวนา ที่ปลูกข้าวแบบอินทรีย์อยู่แล้ว หรือกำลังจะเลิกเคมี หันมาปลูกด้วยระบบอินทรีย์ เจ้าสาว คือ คนเมือง ที่อยากกินข้าวปลอดภัย และอยากสนับสนุนชาวนาไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน แม่สื่อ คือ ผู้มีจิตอาสา ที่พา เจ้าบ่าว มารู้จักกับ เจ้าสาว และผูกสัมพันธ์กัน ตกลงใจผูกปิ่นโตกันจำนวน 3, 6, 12 เดือน และติดตามดูแลเจ้าบ่าวและเจ้าสาวอย่างใกล้ชิด ภาพสุดท้ายในใจโครงการ "ผู้คนรู้จักอำนาจเจริญในฐานะเมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติและความสุข"
เชื่อมต่อโครงการผูกปิ่นโตข้าวอำนาจเจริญ สู่ "ถนนคนเดินผูกปิ่นโตข้าวอำนาจเจริญ" เพื่อตอกย้ำ เสริมสร้างภาพลักษณ์ ตลอดถึงสร้างการจดจำ และรับรู้ร่วมกันของชาวอำนาจเจริญ ถนนคนเดินแห่งนี้ จึงเริ่มขึ้นภายใต้แนวคิด "ผูกปิ่นโตข้าว ผูกปิ่นโตใจ วัฒนธรรมล้ำค่า หอนาฬิกามีชีวิต" เป้าหมายให้สถานที่แห่งนี้เป็น LAND MARK แหล่งรวมกิจกรรมของทุกเพศวัย ของชาวอำนาจเจริญ รวมถึง ส่งเสริมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในอนาคต ถนนคนเดินผูกปิ่นโตข้าวอำนาจเจริญ เริ่มเปิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2559 ภาครัฐ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญร่วมกับเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ จัดนำร่อง 5 ครั้ง ผู้ประกอบการเข้าร่วมครั้งละ 50 ราย ครั้งที่ 6 เป็นต้นไป (25 พ.ค. 59) ได้ถ่ายโอนให้คณะกรรมการบริหารกิจกรรมบริเวณหอนาฬิกา หรือ ชุมชน บริหาร ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญร่วมกับเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ และเพื่อความยั่งยืน วันที่ 22 มิถุนายน 2559 ได้มีการลงนามความร่วมมือสนับสนุนการจัดกิจกรรมบริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองอำนาจเจริญโดย 4 ฝ่าย ได้แก่ ภาครัฐ ท้องถิ่น องค์การเอกชน และชุมชน รวม 14 องค์กร
ปัจจุบันถนนคนเดินฯ จัดมาแล้ว 15 ครั้ง มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นจาก 80 รายเป็น 150 ราย มีรายได้หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ละ 20,000 บาท เป็น 150,000 บาท ความสำเร็จของการจัดกิจกรรม เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หอการค้าจังหวัด ทำหน้าที่ประสานชมรมต่างๆ นำกิจกรรมมาสนับสนุน เช่น ชมรมจักรยาน จัดกิจกรรม "ปั่นชมเมือง" เริ่มต้นและสิ้นสุดที่หอนาฬิกา นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2559 เป็นต้นมา ผู้ประกอบการทุกร้านค้าพร้อมใจกันจัดแคมเปญ "ปั่น ปัน ฮัก" ปั่นมาช้อป ลดทุกร้านค้า 5-50% เพื่อส่งเสริมการขายและแก้ปัญหาที่จอดรถ เกิดความมีเสน่ห์ เอื้อเฟื้อแบ่งปัน สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนอย่างยั่งยืน