คำค้นยอดฮิต: ข้าวเหนียวมะม่วง ของขวัญออแกนิค ผลไม้สด
TH | EN
฿ 0.00
ตลาดเจริญสุข
88/4 ถนนพระยาตรัง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี 22000
Image
Image
Image
Image
สภาพอากาศวันนี้
อยู่ในเวลาปิดทำการ
วันเวลาทำการ
• วันอาทิตย์
: 15:00 น. - 20:00 น.
• วันจันทร์
: 15:00 น. - 20:00 น.
• วันอังคาร
: 15:00 น. - 20:00 น.
• วันพุธ
: 15:00 น. - 20:00 น.
• วันพฤหัสบดี
: 15:00 น. - 20:00 น.
• วันศุกร์
: 15:00 น. - 20:00 น.
• วันเสาร์
: 15:00 น. - 20:00 น.
หมายเหตุ
: -
แผนที่และพิกัดที่ตั้ง
คะแนนรีวิว
0
ความพร้อมสถานที่
0
ความคุ้มค่า
0
การให้บริการ
0
อ่านทั้งหมด >
รายละเอียด
ตลาดเจริญสุข ตั้งอยู่ในพื้นที่ ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรีตลาดเจริญสุข เป็นตลาดสดที่เปิดขายสินค้า และอาหารสดในช่วงเย็นเป็นประจำทุกวัน ตั้งอยู่ริมถนนพระยาตรังใกล้ตัวเมืองจันทบุรี เดินทางเข้า - ออกสะดวก และมีที่จอดรถกว้างขวางได้มาตรฐาน ภายในตลาดปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกสะอาดสะอ้าน ช่วงบ่ายๆ ของทุกวัน พ่อค้า - แม่ค้า จะทยอยนำสินค้าต่างๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก ผลผลิตการเกษตรที่เกษตรกรนำมาจำหน่ายโดยตรง อาหารทะเลสดๆ ใหม่ๆ อาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ เสื้อผ้า และสิ่งของเครื่องใช้ภายในครัวเรือน มากมายมาจำหน่ายที่ตลาดแห่งนี้ตั้งแต่เวลาประมาณบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป จนถึงเวลาประมาณ 1 ทุ่มของทุกวัน
ที่มาข้อมูล
กรมการค้าภายใน
ข้อมูลแนะนำ
ราคาค่าเข้าชม
• ราคาค่าเข้าชม: มีค่าใช้จ่าย
  - ต่างชาติ ผู้ใหญ่
:
  - ต่างชาติ เด็ก
:
  - ไทย ผู้ใหญ่
:
  - ไทย เด็ก
:
• หมายเหตุ : -
รีวิว (0)
0
จาก 5.0
ความพร้อมสถานที่
ความคุ้มค่า
การให้บริการ
แนะนำแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่คล้ายกัน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 พรรษา ในปี พ.ศ. 2539 บนเนื้อที่ 500 ไร่ ณ ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ปทุมธานี
หยาดเหงื่อของลุงฮุยได้ทิ้งไว้ให้ลูกหลานและผู้สนใจได้ชื่นชมและศึกษาเล่าเรียน"สวนเกษตรลุงฮุย” จึงเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตร และสถานที่พักผ่อนเชิงธรรมชาติ ที่มีทั้งบ้านไม้สักกลางสวนและบ้านดินริมคลอง
กำแพงเพชร
ขายอินทผลัมผลสด,แห้ง ขายต้นพันธ์(เนื้อเยื่อ) รับปลูก,ระบบน้ำอัตโนมัติ รับทำสวนทั้งระบบ
อุบลราชธานี
ผลิตและจำหน่าย ผักปลอดสารพิษ มากกว่า 50ชนิด และยังเปิดให้ความรู้สำหรับผู้ที่สนใจปลูกผัก นอกจากผักสดแล้วยังมีกาแฟสด อุปกรณ์เพาะปลูกขายด้วย ไม่ว่าจะเป็น เมล็ดพันธุ์ ดินเพาะ ดินปลูก ถาด กระถาง รวมถึงฮอร์โมนนมสด
สระบุรี
1.เป็นศูนย์เรียนรู้สวนเอเดนเกษตรอินทรีย์เศรษฐกิจพอเพียง 2.การทำแก๊สชีวภาพใช้ในครัวเรือน 3.การทำปุ๋ยอินทรีย์และการทำน้ำหมักชีภาพ 4.การใช้ควายไถนาสู่วิถีชีวิตดั้งเดิม 5.การฝายชะลอน้ำและการฟื้นฟูป่าเพื่อเป็นแหล่งน้ำ(ปลูกป่า) 6.การทำหมูหลุม ควายหลุุม ไก่ และอื่นๆ 7.การปลูกพืชผักอินทรีย์และผลไม้อินทรีย์(ผสมผสาน) 8.การประมง
เชียงราย
จุดชมวิวเนินสวรรค์ เป็นบริเวรที่ตั้งสำนักงานและแปรรูปเหมืองตะกั่ว ที่ส่งไปขายยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเหมืองแร่ดังกล่าวหมดสัมปทานไปแล้ว เป็นเวลากว่าสิบปี ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ตั้งเป็นจุดตรวจสกัด และดูแลบริเวณสำนักงานเหมืองเก่า ที่ตั้งจุดตรวจนี้ เป็นพื้นที่สูงสามารถมองเห็นพื้นที่ด้านล่างได้สวยงาม หน้าหนาวจะมองเห็นเป็นทะเลหมอกในพื้นที่หมู่ที่ ๒ ทั้งหมู่บ้าน ช่วงกลางวันจะมองเห็นหมู่บ้านป่าไม้สะพานลาวที่สวยงาม รอบบริเวณจุดชมวิว สามารถเป็นที่กางเต็นท์ได้มากกว่า ๕๐ เต็นท์ ด้วยสภาพอากาศที่หนาวเย็น สามารถชมแสงเดือน แสงดาว ในยามค่ำคืนได้
กาญจนบุรี
มีจุดเด่นคือผลผลิตที่การันตีคุณภาพตามระบบมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ระดับประเทศและระดับโลก (IFOAM, EU, COR) เพื่อนนำจำหน่ายส่งออกด้วยมาตรฐานคุณภาพเกรด A “สด ใหม่ พร้อมรับประทาน ” มีการจำหน่ายสินค้าจากเกษตรกรมีคุณภาพดี มีกิจกรรมหลากหลาย อาทิเช่น เก็บผักสด ตัดแต่งผัก ท่องเที่ยวเยี่ยมชมฟาร์ม ดูงาน เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น
ฉะเชิงเทรา
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ จ.นครนายก การมาเที่ยวชมศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย เว้นแต่ว่ามากันเป็นหมู่คณะ และต้องการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ทางศูนย์ฯ ได้จัดขึ้น ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ชั้นเลิศ ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องราวของคำว่า "พอเพียง" และการใช้ทรัพยากรอย่างไรให้ได้ประโยชน์และรู้คุณค่ามากที่สุด การเดินเที่ยวชมที่แห่งนี้ เดินชมได้เป็นลักษณะคล้ายวงกลม โดยเริ่มจาก โซนภาคเหนือ ตื่นตาไปกับการปลูกไม้ไผ่ชนิดต่างๆ สองข้างทาง รวมทั้งความน่ารักของสะพานไม้ไผ่ บ้านที่สร้างจากไม้ไผ่ริมสระบัว และเครื่องเล่นที่ทำจากไม้ไผ่ ที่จัดแสดงแบบนี้ เป็นเพราะต้องการให้ได้รู้ว่าไม้ไผ่สามารถทำประโยชน์อะไรได้มากมาย รวมทั้งทำรางหยดน้ำ เพื่อใช้รดน้ำต้นไม้และรดดินแทนคนอีกด้วย เดินขึ้นไปตามภูเขาก้อนเล็กๆ เรียนรู้เรื่องภูเขาป่า การตะบันน้ำ คือ การที่ใช้น้ำอัดน้ำขึ้นที่สูงแทนการใช้เครื่องปั๊มน้ำ ระบบป่าเปียกกันไฟ ประโยชน์ของหญ้าแฝก และการทำฝายชะลอความชุ่มชื้น เดินต่อไปยัง โซนภาคกลาง เรียนรู้เรื่องการเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ของตัวเองอย่างคุ้มค่า เรียนรู้การสร้างบ้านดิน และเรื่องสมุนไพรนานาชนิด แล้วก็เดินไปยัง โซนภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ชมธนาคารข้าว เรียนรู้เรื่องการสีข้าว การเลี้ยงปศุสัตว์ แอบเห็นวัวตัวเบ่อเริ่มอยู่ในคอกด้วย การทำปุ๋ยหมักไว้ใช้เอง จะได้ไม่ต้องซื้อปุ๋ยเคมี และได้เรียนรู้เรื่องการห่มดิน จากที่พื้นที่ที่ไม่มีดิน ต้องใช้วิธีห่มดิน เพื่อให้ได้ดินดีๆ กลับมาปลูกพืชผัก แต่จะทำอย่างไร อยากให้ไปเรียนรู้ด้วยตัวเองจะดีที่สุด สุดท้ายไปยัง โซนภาคใต้ ไปดูการเผาถ่านที่ทำจากไม้ไผ่ การทำน้ำมันไบโอดีเซล และเรียนรู้โครงการแก้มลิง นอกจากนี้ตลอดภายในศูนย์ฯ ฉันเห็นว่าจะมีร่องน้ำขนาดใหญ่และเล็กตลอดเส้นทาง มีสระน้ำ มีแปลงเกษตรปลูกพืชผัก มีกังหันน้ำชัยพัฒนา มีการปลูกหญ้าแฝกในน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย จบการเดินเที่ยวชม ที่รับสาระความรู้และความเพลิดเพลินเดินอย่างไม่รู้เหนื่อยกันไป เดินชม ตาดู หูฟังและปากถามเจ้าหน้าที่ไม่ลดละ เพียงเพราะว่าสิ่งที่เราคิดว่า ‘เรารู้' กลายเป็นสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อน นั่นเป็นเพราะความเคยชินกับโครงการต่างๆ หรือทฤษฎีต่างๆ แต่ไม่เคยปฏิบัติหรือมาสัมผัสจริง การเดินทาง : จากแยกรังสิต ไปทาง อ.องครักษ์ มุ่งหน้าไปใช้เส้นนครนายก-น้ำตกนางรอง ผ่านวังตะไคร้ ก่อนถึงน้ำตกนางรอง 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าโครงการเขื่อนขุนด่านปราการชล ตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงวงเวียน (มีรูปปั้นช้าง) วนขวาข้ามสะพาน ถึงสี่แยกเลี้ยวขวาตรงไปอีก 200 เมตร ศูนย์ฯ จะอยู่ทางซ้ายมือ
นครนายก
สวนมังคุดไทย (สวนคุณปัญญา) มีต้นมังคุดกว่า 300 ต้น และผลไม้อื่นๆ เช่น เงาะ ทุเรียน แก้วมังกร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและสามารถมาชิมบุฟเฟ่ต์ผลไม้ได้ท่านละ 150 บาท และมีบริการที่พักแบบโฮมสเตย์
ระยอง
แปลงเกษตรการเรียนรู้ของศูนย์ส่งเสริมเยาวชนเกษตรอาเซียน จ.กาญจนบุรี ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ภายใต้ชื่อ “FYPC Garden” โดยภายในมีจุดเรียนรู้ทั้งหมด 7 จุด ที่พร้อมให้บริการประชาชนที่สนใจ ได้แก่ 1.แปลงเรียนรู้ไม้ดอกไม้ประดับ 2.จุดเรียนรู้การเลี้ยงจิ้งหรีด 3.แปลงเรียนรู้สมุนไพร 4.บ้านเกษตรสมบูรณ์ 5.แปลงรวบรวมพันธุ์กล้วย 6.แปลงเรียนรู้ผักอินทรีย์พื้นบ้าน 7.จุดเรียนรู้การเลี้ยงชันโรง และปลูกต้นทานตะวันในพื้นที่แปลงเรียนรู้ เพื่อความสวยงามและเป็นจุดถ่ายภาพให้กับประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ
กาญจนบุรี
อิ่มหนำสำราญใจไปกับบุฟเฟต์ผลไม้ตามฤดูกาล อาทิ ทุเรียน เงาะ มังคุด พร้อมอาหารพื้นบ้านไว้คอยบริการ
ระยอง
โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ ตั้งอยู่ที่อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร มีประวัติเล่าสืบกันมาว่าในปี ค.ศ.1908 มีผู้หนีตายอพยพจากที่ต่าง ๆ กัน เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้รวม 5 ครอบครัว ซึ่งหนีมาด้วยสาเหตุเดียวกัน คือ ถูกกล่าวหาว่าเป็นผีปอบ ชาวบ้านในหมู่บ้านจึงรุมทำร้ายและขับไล่ เป็นโบสถ์หลังที่ 4 วางแผนก่อสร้างปี ค.ศ. 1936 ชาวบ้านพากันรวบรวมไม้ ลงมือสร้างปี ค.ศ. 1947 ตัวโบสถ์รูปทรงที่สร้างขึ้นมีลักษณะแบบศิลปะไทย กว้าง 16 เมตร ยาว 57 เมตร จัดเป็นโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย ใช้แผ่นไม้เป็นแป้นมุง หลังคา 80,000 แผ่น ใช้เสาขนาดต่างๆกันถึง 360 ต้น ส่วนใหญ่เป็นเสาไม้เต็ง เสาในแถวกลางมีขนาดใหญ่ยาวที่สุดมี 260 ต้น สูงจากพื้นดินกว่า 10 เมตร พื้นแผ่นกระดานเป็นไม้แดงและไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ ม้านั่งไม้จุคนได้กว่าพันคน ระฆังโบสถ์มีเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบ 2 ฟุต อยู่ในหอระฆังสูงที่สร้างแบบหอระฆังตามวัดไทยทั่วไป แต่แปลกตรงที่แยกต่างหากจากโบสถ์ และเนื่องจากไม้ที่ได้รวบรวมมามีจำนวนมาก จึงได้นำไม้ที่เหลือมาสร้างโรงเรียนบ้านซ่งแย้พิทยา ข้อมูลและรูปภาพจากเว็บไซต์ : http://www.yasothon.go.th/web/file/menu4.html
ยโสธร